รอบด้านตลาดหุ้น: เงินกำลังจะหมุนไป…
สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ตลาดเปิดดิ่งเช้า แล้วค่อยๆ กลับมาตอนภาคบ่าย หุ้นกดดันตลาดเป็นกลุ่ม คอมเมิร์ซ COM7 (หลากความกังวลถาโถม) BJC (ผิดหวังงบฯ) CPAXT CPALL CPN ธนาคาร KBANK BBL SCB และ BH (Sell-on-fact) ส่วนที่เห็นบวกสวนตลาด เช่น พลังงาน PTT PTTEP BANPU BGRIM GPSC EA รวมทั้งหุ้นกลาง-เล็กรายตัว เช่น ICHI TAN IP JAS JPARK
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ความชัดเจนเรื่อง เงินดิจิตอลวันนี้ จะหนุนตลาดหุ้นไทย (ได้หรือไม่): แม้เมื่อวานหุ้นไทยจะไม่ได้ Sideways อย่างที่คาด แต่อย่างน้อยการลงของราคาหุ้นเมื่อวาน เป็นลักษณะกระจุกตัว ซึ่งบางตัวที่ลงแรงมีเหตุจาก Valuation หรืองบผิดคาด เช่น BH BJC ส่วนปัจจัยมหภาคดูจะคลี่คลาย แม้เฟดเมื่อคืนจะไม่ได้อ่อนโยน ต่อตลาดแต่ก็ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนที่ผ่านมา เหลือเพียงแต่ปัจจัยภายในที่เรามองว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางหุ้นไทย ได้แก่
1.ความชัดเจนเรื่องการแจกเงินดิจิตอล ซึ่งในกรณี Base/Best case คาดหุ้นขึ้น (relief rebound) ไม่ว่าจะมีการกู้ทั้งหมด หรือ ผันเงินจากงบประมาณรัฐบางส่วน และกรณีแย่สุดคือ ไม่มีความชัดเจนใดๆ คาดการปรับฐานอาจเกิดขึ้นในระยะสั้น กลับมาหลุด 1400 อีกครั้ง
2.การแจ้งงบการเงิน บจ. และพื้นฐานที่ไม่ได้แย่ไปกว่าคาด ในกรณีที่ตลาดกังวลเรื่องหุ้นกู้ รวมไปถึงการเข้าข่ายฟื้นฟูกิจการของบางบริษัทฯ เรามองว่าเป็นภาวะที่เกิดกับหุ้นรายตัว และจะจำกัดวงความเสียหายได้ บนสมมุติฐาน Bond yield ไทยไม่ได้พุ่งทะยานต่อเนื่องไปมากกว่านี้…
หุ้นแนะนำวันนี้ : MEB
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ถ้อยแถลงประธานเฟดเมื่อคืน ระบุพร้อมที่จะดำเนินนโยบายเข้มงวดหากเงินเฟ้อยังไม่ยอมลง แต่ผลสำรวจจากโพล CME ยังคงคาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ไปถึงกลางปีหน้า แต่การลดดอกเบี้ย อาจเลื่อนออกไป
- นายกเผย เงินดิจิตอล ชัดเจน 10 พ.ย.
- FETCO หารือนายก ฟื้นคืนชีพแนวทางลงทุนแบบ LFT
- บริษัทที่รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้ที่สำคัญๆ
- ศุกร์ SIRI BBIK NEX MAJOR MGC JMT WHAUP AOT CBG CPALL
Global Investing Brief : Disney พุ่ง 7% หลังเผยงบดีกว่าคาด ด้านเงินเฟ้อจีนยังชะลอตัว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดลบ ราว 0.7-0.9% กดดันจาก ADBE -1.3% และ AMZN -1% หลัง เจอโรม พาวเวล กล่าวในงานเสวนาด้านการเงินของ IMF ว่า Fed ยังมีความไม่แน่ใจว่าดอกเบี้ยระดับปัจจุบันจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่ ทำให้อาจยังมีความไม่แน่ชัดในเรื่องระยะเวลาการคงดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีเรามองว่า Fed จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มกลับมาลดดอกเบี้ยในปีหน้า หลังดัชนี CPI เดือน ต.ค. ที่จะเผยวันที่ 14 พ.ย. 66 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพียง 3.3%YoY ชะลอจากเดือน ก.ย. ที่ 3.7% (Bloomberg cons.) ซึ่งเข้าใกล้กับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ Fed ตั้งไว้ที่ 2%YoY มากขึ้น
- Roblox (RBLX) เผยงบ 3Q66 แม้บริษัทจะยังคงขาดทุนสุทธิ $277.2mn แต่รายได้กลับโตแกร่ง 38%YoY สู่ $713.2mn ดีกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากยอดขายหน่วยเงิน Robux ที่เพิ่มขึ้น 19.6%YoY สู่ $839.5mn โดยเรามองว่ารายได้ของบริษัทจะดีขึ้นต่อเนื่อง หลัง RBLX ขยายการเล่นไปสู่แว่น VR และ Playstation ในช่วงเดือน ก.ย. 66 และ ต.ค. 66 ตามลำดับ ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ของ RBLX ที่ $42.53 (upside 12.3%)
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- เมื่อวานนี้ดัชนีฮั่งเส็ง ลบ 0.3% กดดันโดย JD.com (9618) -1.5% และ Ping AN (2318) -1.3% หลังจีนเผยดัชนี CPI เดือน ต.ค. 66 ลดลง 0.2%YoY จากที่ทรงตัวในเดือน ก.ย. 66 ส่วนดัชนี PPI เดือน ต.ค. 66 หดตัว 2.6%YoY ซึ่งนับเป็นการหดตัวติดต่อกัน 13 เดือน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัว โดยเรามองเป็นปัจจัยกดดันให้ทางการจีนเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้นในในช่วงที่เหลือของปีนี้
- Alibaba (9988) เปิดตัวโมเดล AI ที่สามารถเจาะจงการใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น โมเดลสำหรับการอ่าน ที่ AI จะสามารถเรียนรู้เอกสารต่างๆ และช่วยสรุปข้อมูลให้แก่ผู้ใช้งาน และ โมเดลด้านกฎหมายที่จะช่วยผู้ใช้งานร่างเอกสารทางกฎหมาย เป็นต้น เราจึงมองเป็นสัญญาณบ่งชี้ความก้าวหน้าด้าน AI ของ Alibaba ซึ่งคาดว่าจะเป็น S-curve ใหม่ให้กับบริษัทได้ในระยะข้างหน้า ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD135.46 (upside 64.9%)
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- เมื่อวานนี้ดัชนี VN ทรงตัวในแดนบวก (+0.04%) นำโดย VIC +5.6% และ VHM +4.6% หลังเวียดนามเผยยอดออกหุ้นกู้เดือน ต.ค. 66 เพิ่มขึ้น 6.1%YoY สู่ VND20.8tn โดยบริษัทอสังหาฯ ออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นราว 10%YoY ซึ่งเป็นปัจจัยคลายความกังวลเรื่องสภาพคล่องของบริษัทอสังหาฯ เวียดนามที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
- MWG +1.8% โดยมีสัดส่วนราว 4.0% และ 12.6% ในดัชนีอ้างอิงของ DR: E1VFVN3001 และ FUEVFVND01 ตามลำดับ แม้กำไร 3Q66 ของบริษัทหดตัว 96%YoY เหลือ VND39bn กดดันจากยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี เรามองว่ายอดขายอาจกลับมาฟื้นตัวในปีหน้า หนุนจากการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซเวียดนาม (คาดว่าจะโตราว 22% ต่อปี ในอีก 2 ปีข้างหน้า) โดยอาจหนุนยอดขายโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อปของบริษัท (สัดส่วนรายได้ราว 46%) ในระยะข้างหน้า
หุ้นเด่นประจำวัน : Walt Disney (DIS.US)
- DIS พุ่ง 7% หลังเผยงบเดือน ก.ค.-ก.ย. 66 (F4Q66) รายได้โต 5.4%YoY สู่ $21.2bn และกำไร $694mn พลิกจากขาดทุนในไตรมาสก่อน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่บริการสตรีมมิ่ง Disney+ มีสมาชิกอยู่ที่ 150.2 ล้านบัญชี หรือเพิ่มขึ้น 7 ล้านบัญชีจากไตรมาสก่อน
- ด้านมูลค่าหุ้นยังน่าสนใจ หลังมี Forward P/E 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 19.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 29.5 เท่า ราว 1 s.d. เราจึงมองว่าน่าสนใจลงทุน