บล.บัวหลวง:
JMT Network Services (JMT TB / JMT.BK)
JMT – กำไรเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด
ผลประกอบการเป็นไปตามที่เราคาด (แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด)
JMT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 466 ล้านบาท เติบโต 2% YoY แต่ลดลง 15% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 7% ทั้งนี้กำไร 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 71% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 2.1 พันล้านบาท
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
การเติบโตของกำไร YoY หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ที่เพิ่มขึ้นขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นรายได้ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY และ 5% QoQ หนุนโดยรายได้ดอกเบี้ย 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 5% QoQ หนุนโดยการบริหารหนี้ที่เพิ่มขึ้น JMT ได้ซื้อหนี้เข้ามาสุทธิอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% YoY (แต่ลดลง 20%) ส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC อยู่ที่ 114 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 223% YoY (แต่ลดลง 12% QoQ)
การตั้งสำรอง ของ JMT ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% YoY และ 198% QoQ เนื่องจากการเก็บเงินสดจากหนี้สินด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันซอละตัว การจัดเก็บเก็บเงินสดในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และ 15% QoQ รายได้บริการเก็บหนี้อยู่ที่ 88 ล้านบาท เติบโต 8% YoY และ 5% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 70.1% เพิ่มขึ้น 69.5% YoY ในไตรมาส 3/65
แนวโน้ม
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 570 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 16% YoY และ 22% QoQ หนุนโดยการเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้น จากหนี้ที่ได้ซื้อมาก่อนหน้านี้
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY หนุนโดยการบริหารหนี้ที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ที่เพิ่มขึ้น เมื่อมองไปยังปี 2567 ประมาณการกำไรสุทธิของเราอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY
คำแนะนำ
PER ปี 2567 ของ JMT อยู่ที่ 19 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ 1.3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และปัจจุบันเราคาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกำไร ปี 2567-2568 ที่ 19% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PEG ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่า อัตราส่วน PEG เฉลี่ยของ JMT สำหรับปี 2562-2565 ที่ 1.2 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ