บล.บัวหลวง:
Commerce – Digital Wallet และ E-refund ในปีหน้า
What’s new?
บ่ายวันนี้ นายกมีการจัดแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะจัดทำ 2 โครงการ 1) Digital Wallet และ 2) E-Refund
Highlights:
- โครงการ Digital Wallet แจกเงินประชาชนคนละ 1 หมื่นบาท เจาะกลุ่มประชาชนทั่วไป จะมีผู้ได้รับทั้งหมด 50 ล้านคน ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับคือ อายุเกิน 16 ปี ผู้ที่รายได้ไม่เกิน 7 หมืนบาท และมีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท โดยน่าจะเริ่มใช้เดือน พ.ค. ปีหน้า และครอบคลุมระยะเวลา 6 เดือน
- โครงการ E-refund เจาะกลุ่มผู้มีรายได้สูง โดยประชาชนสามารถนำเงินซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ให้ใช้ได้ในช่วงเดือน มค เป็นต้นไป
View From Fundamental:
โครงการของรัฐบาลน่าจะช่วยกระตุ้น Mood and Tone และผลประกอบการของกลุ่มได้ในปีหน้า โดยเรามองว่า Grocery retailers น่าจะเห็นผลบวกจากโครงการ Digital Wallet มากที่สุด แต่ด้วยการจำกัดการใช้ในระดับตัวอำเภอ เรายังมองว่า CPALL น่าจะเห็น benefit สูงสุดจากโครงการนี้จากจำนวนสาขาที่ครอบคลุมมากที่สุด ในขณะที่ เรามอง Discretionary และ Home Construction retailers (โดยเฉพาะ CPN, ILM, CRC, TAN, HMPRO และ COM7 ซึ่งเป็น big ticket retailers ที่ target mid to high income) น่าจะ benefit จากโครงการ E-Refund มากที่สุดและโครงการ E-Refund ก็น่าจะช่วยลดความกดดันของฐานยอดขายที่สูงจากช็อปดีมีคืน เมื่อตอนต้นปี (โดยเมื่อต้นปีนี้ช่วง 1 ม.ค. -15 ก.พ. รัฐบาลก็มีการทำโครงการ “ช็อปดีมีคืนปี 2566” ที่ให้นำเงินซื้อสินค้าและบริการลดหย่อนภาษีที่ 4 หมื่นบาท โดยกำหนดการใช้จ่าย 1 หมื่นบาทผ่านออนไลน์) โดยจากข้อมูลที่เรามี โครงการช็อปดีมีคืนเมื่อตอนต้นปีช่วยกระตุ้นยอดขายใน 1Q23 ระดับประมาณ 2-3%
เราโครงการกระตุ้นการจับจ่ายของรัฐบาลเหล่านี้จะเข้ามาช่วย mood and tone โดยรวมของกลุ่มค้าปลีกได้โดยเฉพาะในปีหน้า โดยในกลุ่มค้าปลีก เรายังชอบ CPN, CPALL, ILM และ GLOBAL มากที่สุด