บล.บัวหลวง:

LPN Development (LPN TB / LPN.BK)

LPN – เป็นไปตามคาด โดยไตรมาส 4/66 จะเป็น ไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปี

เป็นไปตามที่เราคาด

LPN รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 104 ล้านบาท ลดลง 56% YoY แต่เพิ่มขึ้น 19% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

LPN รายงานยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 62% YoY แต่เพิ่มขึ้น 19% QoQ (โครงการคอนโด 72% และโครงการแนวราบ 28%) หนุนโดยยอดโอนโครงการคอนโดใหม่ที่ลุมพินี คอนโดทาวน์ เอกชัย 48 (มูลค่าโครงการ 2.3 พันล้านบาท ขายแล้ว 23% โอนแล้ว 7%) รายได้ค่าเช่าและบริการยังคงแข็งแกร่งที่ 594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 6% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 22.0% ในไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้น 170bps YoY และ 60bps QoQ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายโครงการคอนโด อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 14.7% เพิ่มขึ้น 60bps YoY และ 40bps QoQ (ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ที่สูงขึ้น) สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระต่อทุนสุทธิอยู่ที่ 0.7 เท่า ณ สิ้นเดือนก.ย.

LPN รายงานยอดจองซื้อในไตรมาส 3/66 ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 44% YoY และ 4% QoQ ยอดจองซื้อในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 61% ของเป้าหมายทั้งปีของเราที่ 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 19% YOY ปัจจุบันเราคาดว่า LPN รายงานผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายของเรา 20-25% อยู่ที่ 9.7-10 พันล้านบาท ทรงตัว YoY

แนวโน้ม

เราคาดว่าไตรมาส 4/66 จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปี 2566 (เพิ่มขึ้น YOY แต่ลดลง QoQ) ยอดขายที่อยู่อาศัยจะลดลง YoY และ QoQ อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยน่าจะอยู่ในช่วง 20-21% เทียบกับ 22.0% ในไตรมาส 4/65 และ 22.0% ในไตรมาส 3/66 นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/66 LPN มีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโด 1 โครงการ คือ เพลส 168 วุฒากาศ (มูลค่าโครงการ 860 ล้านบาท) และโครงการแนวราบ 1 โครงการ Venue 24 ประชาอุทิศ 90 (1.1 พันล้านบาท) ดังนั้นมูลค่าโครงการใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในปี 2566 จะอยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 10% รายได้ค่าเช่าและบริการน่าจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ

การเปลี่ยนแปลง

เราปรับลดกำไรหลักปี 2566 ลง 32% มาอยู่ที่ 391 ล้านบาท (ลดลง 36% YoY) เพื่อสะท้อนยอดจองซื้อในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่ต่ำกว่าคาดและกำไรที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/66

คำแนะนำ

เราและตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อหุ้น LPN ในปีนี้และปี 2567 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง และยอดขายเคลียร์สต็อกของบริษัท เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็น ณ สิ้นปี 2567 โดยตั้งราคาเป้าหมายใหม่ที่ 2.5 บาท ปัจจุบันหุ้น ซื้อขายที่ PER ปี 2567 ที่ 16.1 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2549-2564 ที่ 14.2เท่า) เราแนะนำให้นักลงทุนขายเนื่องจากราคาหุ้นมีมูลค่าสูงกว่า PER ระยะยาวที่ 13% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

- Advertisement -