เรียกความเชื่อมั่น / 1,380-1,400
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET เช้าลุ้นบวก แต่ระวังแรงขายปิดความเสี่ยง: แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทย โดยประที่ปรึกษานายกฯ ยืนยันว่า Naked ShortSell ทุบหุ้นไทยไม่เป็นความจริง อีกทั้งรัฐบาลเตรียมอัดฉีดมาตรการเพิ่มความเชื่อมั่น โดยระยะสั้นแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน เน้นหนี้กยศ.นอกจากนี้ ยังได้เตรียมตั้งกองทุน ESG ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้านการประชุมครม.ในวันนี้ หากมีการเคาะมาตรการช่วยเหลือชาวนา 1 พันบาท/ไร่ จะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มดังกล่าวยังมีแรงหนุนเพิ่มเติม หลังรมช.คลังเผยเตรียมเสนอมาตรการ e-Refund เข้าครม.ใน 2 สัปดาห์ โดยมีกำหนดใช้ 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.67) นำรายจ่ายไม่เกิน 5 หมื่นบาทมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1.75 หมื่นบาท ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.4% ปิดที่ $78.26 ต่อบาร์เรล หลังโอเปคเผยรายงานประจำเดือนพ.ย.โดยระบุว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2.46 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 66 จากคาดการณ์เดิมที่ 2.44 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมเผยปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันยังแกร่ง และยืนยันว่าจีนยังคงนำเข้าน้ำมันดิบในระดับสูง อย่างไรก็ดี ทางขึ้นของ SET Index มีแนวโน้มจำกัดเนื่องจากนักลงทุนอาจลดสถานะเสี่ยงก่อนที่สหรัฐฯจะรายงานเงินเฟ้อเดือนต.ค. ในคืนนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ทั้งนี้ ตลาดคาด CPI ขยายตัว 3.3%y-y และ 0.1%m-m ชะลอลงจาก 3.7%y-y และ 0.4% m-m ในเดือนก.ย. และ Core CPI ขยายตัว 4.1% y-y และ 0.3% m-m เท่ากับในเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งหากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถเจรจาแก้ไขความขัดแย้ง เพื่อให้มีการจัดทำงบประมาณระยะยาวภายในวันที่ 17 พ.ย. สหรัฐก็จะเผชิญการชัตดาวน์อีกครั้ง
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย: BA, BEM, CPN, CRC, DOHOME, ERW, HMPRO 2) งบโค้งสุดท้าย: AMATA. AOT 3) พลังงาน: BCP PTTEP TOP และ 4) Covered Short-sell: ADVANC, CPALL, LH. PTT,SCB
ปัจจัยบวก
- ปธ.ที่ปรึกษานายกฯ เผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือ เรื่องสภาวะตลาดหุ้น โดยระบว่าในวันนี้ ก.คลังจะหารือร่วมกับ FETCO เพื่อออกกองทุนประหยัดภาษีรูปแบบใหม่ โดยเน้นเรื่องของ ESG เบื้องต้น ประเมินว่าจะมีมูลค่ากองทุนระดับแสนลบ.
- สศอ.คาดดัชนี MPI และ GDP อุตสาหกรรมปี 67 จะขยายตัวได้ 2-3% เป็นผลมาจากการขยายตัวของการอุปโภค บริโภคภาคเอกชน สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นของการจ้างงาน รวมทั้งผลจากการฟื้นฟูของภาคการท่องเที่ยว
- สบน.เผย Fitch Ratings ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ Fitch คาดว่าศก.ไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 2.8% ในปี 66 เป็น 3.8% ในปี 67
ปัจจัยลบ
- เอเปกคาดศก.ในกลุ่มประเทศเอเปกจะเต็บโตลดลงสู่ 2.8% ในปี 67 จากการเติบโตระดับ 3.3% ในปี 66 จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ชะลอการเติบโตของศก.สหรัฐ ในขณะที่จีนกำลังดินรนฟื้นฟูศก.ภายในประเทศรวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ทำให้การค้าซบเซาลง
- มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสหรัฐฯ ในปี 67 จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.6% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.5%
PICKS OF THE DAY
BEM BUY
- เป้าหมาย 8.20 / 8.50 แนวรับ 7.60 / 7.80
- 3Q66 ทำกำไร new high: จากผู้ใช้ บริการผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าใน 3Q66 +4.1% และ +31.3% y-y และ +5.8% และ +18.1% q-q ที่ 98.2 ล้านคัน และ 37.8 ล้านเที่ยว ทำให้รายได้เติบโตทั้ง q-q และ y-y อีกทั้งมีปันผลรับจาก TTW เข้ามา 221 ลบ. ทำให้กำไรใน 3Q66 เป็น new high ที่ 970 ลบ. +12.4% y-y, +7.7% q-q และดีกว่าคาดที่ 3.4%
- 4Q66 คาดกำไรยังโต y-y: ต.ค. ผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าเฉลี่ย/วัน +2.6.% และ +21.4% y-y ที่ 1.11 ล้านคันและ 4.15 แสนคน และ พ.ย. กลับมาดีขึ้น m-m โดยวันทำงาน (จ.-ศ.) อยู่ที่ 1.17 ล้านคัน และ 4.80 แสนคน/วัน หลัง รร. กลับมาเปิดเรียนหลังปิดเทอม
CPN BUY
- เป้าหมาย 67.50 / 68.50 แนวรับ 66.00
- 3Q66 ดีต่อเนื่อง: ผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 3Q66 โดยรายได้รวมเติบโต 31% y-y และ 10% q-q นำโดยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่รายได้ ขยายตัว 211% y-y และ 90% q-q ตามยอดโอนคอนโดที่ค่อนข้างเยอะ ขณะธุรกิจหลักอย่างให้เช่าและบริการ รายได้ขยายตัว 18% y-y และ 1% q-q
- แรงหนุนจากการเปิดโครงการ: ทางบริษัทมีโครงการที่ได้ประกาศไปแล้วและจะเปิดตัวในช่วงที่เหลือของปี 66 ได้แก่ 1) ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสท์วิลล์ เปิดให้บริการในเดือนพ.ย. 66 2) โรงแรมเซ็นทารา อยุธยา ในช่วง 4Q66 และ 3) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย มีแผนเปิดตัว 5 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8.7 พันล้านบาท ใน 4Q66