บล.บัวหลวง
Civil Engineering (CIVIL TB / CIVIL.BK)
CIVIL – กำไรอ่อนตัวลงใกล้เคียงกับที่คาด; แต่มีปัจจัยกระตุ้นให้กลับมาเล่นรีบาวน์ได้
กำไร 3Q23 ลดลง QoQ ตามคาด
CIVIL รายงานกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 5.95 ล้านบาท พลิกจากจากขาดทุนหลักใน 3Q22 (Turnaround YoY) แต่ลดลง 55% QoQ เป็นไปตามที่เราคาดล่าสุด
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
กำไร Turnaround YoY เกิดจาก GM ที่ดีขึ้น (ฐานต่ำมากใน 3Q22) แต่ลดลง QoQ เกิดจาก GM ที่ลดลงเนื่องจากมีการบันทึกต้นทุนก่อสร้างเพิ่มเติมตามการปรับปรุงประมาณการ (ปรับ Budget)
รายได้หลักรวมอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 11% QoQ โดยรายได้รับเหมาก่อสร้างที่ 1.25 พันล้านบาท ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ จากการกลับมารับรู้ Progress งานได้ตาม Backlog มากขึ้น (ใน 2Q23 มีงานบางส่วนชะงัก จากถูกจำกัดระยะเวลาก่อสร้าง ภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 4.8% เพิ่มขึ้นจาก 0% ใน 3Q22 (ปรับปรุงต้นทุนงานรถไฟครั้งใหญ่) แต่ลดลงจาก 6.4% ใน 2Q23 (ปรับปรุงต้นทุนโครงการ โดยเฉพาะงานทาง) ขณะที่ SG&A/revenue ratio อยู่ที่ 5.85% เพิ่มขึ้น 47bps YoY และ 48bps QoQ ตามทิศทางรายได้
แนวโน้ม
เบื้องต้น คาดกำไรหลักใน 4Q23 ลดลง YoY (ฐานสูงที่ 62.5 ล้านบาท ใน 4Q22) แต่ฟื้นตัว QoQ เนื่องจาก 1) รายได้กลับมาเพิ่มขึ้นตามการเริ่มโครงการใหม่ (อาจจะอยู่ปลายไตรมาส สำหรับโครงการใหญ่ งานอุโมลค์ระบายน้ำที่เพิ่งได้มา และเจรจาปรับสัดส่วนการรับงานเพิ่มเติมกับ Partner)และ 2) GM ปรับตัวดีขึ้น บนสมมติฐานที่ไม่มี On-time cost จากการปรับ Budget เหมือนที่เกิดขึ้นใน 3Q23 (ไม่น่าจะปรับซ้ำทุกไตรมาส)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
ก่อนหน้านี้เราได้มีการปรับประมาณการและเลื่อนราคาเป้าหมายไปตอนรายงาน Earnings preview กลุ่มรับเหมาฯ วันที่ 2 พ.ย. 2023 ดังนั้น เรายังคงคาดการณ์กำไรหลักไว้ตามเดิม สำหรับปี 2023-24 ที่ 87.2 และ 158.9 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 35% และ 82% ตามลำดับ โดยในปี 2024 การรับรู้รายได้โครงการใหม่ที่จะเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโต
คำแนะนำ
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 3.40 บาท โดยมองว่า ปัจจัยบวกจะเกิดจากทั้งภาพอุตสาหกรรมที่กลับมาประมูลงานโครงการใหญ่ และตัวบริษัทเองจากงานที่รถไฟไทย-จีน สัญญาที่ 4-5 ที่ CIVIL รอลงนามอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาทในเดือนนี้ รวมทั้งการกลับมาส่งมอบกำไรฟื้นตัวแกร่งได้ในปีหน้า ดังนั้น มองว่าราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวน์จากฐานปัจจุบันที่ซื้อขายบน PER ปี 2024 เพียง 9 เท่า (ค่าเฉลี่ยกลุ่มช่วงนี้วิ่งอยู่ 14-17 เท่า)