RT เผยงบงวด 9 เดือน ปี 66 รายได้ 2,333 ล้านบาท กำไรโต 280.02% มุ่งส่งมอบงานเก่า เร่งประมูลงานเพิ่ม ดัน Backlog โตต่อเนื่อง
RT เผยผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2566 รายได้ 2,333 ล้านบาท กำไร 39 ล้านบาท โต 280.02% ทิศทางการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 มุ่งเน้นดำเนินงานก่อสร้างตามแผน พร้อมส่งมอบงานเก่า เตรียมเข้าประมูลงานใหม่สะท้อนราคาต้นทุนจริง อาทิ งานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โดนวิธี HDD และ Pipe Jacking ดัน Backlog โครงการก่อสร้างโตต่อเนื่อง 9,273 ล้านบาท เน้นบริหารต้นทุนก่อสร้าง เพิ่มความสามารถการทำกำไรที่ดีต่อเนื่อง
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 2,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,696 ล้านบาท จำนวน 637 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 27.30% และ มีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 70 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 280.02%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้รวม 874 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 605 ล้านบาท จำนวน 269 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 30.78% และ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 45 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 180.27%
สาเหตุที่ผลประกอบการทั้งงวด 9 เดือน ปี 2566 และ ไตรมาส 3/2566 มีรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และ สามารถส่งมอบงานโครงการก่อสร้างได้ตามแผน โดยงานที่ส่งมอบเป็นงานที่มีต้นทุนใหม่สะท้อนราคาปัจจุบัน ส่วนงานที่เป็นต้นทุนเก่ายังคงเหลือการรับรู้รายได้เพียงเล็กน้อย โดยจะสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา
ทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 บริษัทเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลงานใหม่ ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ งานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโดยวิธี HDD และ Pipe Jacking เพื่อสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมียอดรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 9,273 ล้านบาท
“สำหรับการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา บริษัทสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน พร้อมทั้งการบริหารต้นทุนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ประกอบกับปัจจัย ต่าง ๆ เริ่มคงที่ อาทิ แรงงานก่อสร้าง และ ราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลดีต่อภาคอุตสาหกรรม โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน ด้วยความพร้อมทั้งด้านเครื่องจักร ความเชี่ยวชาญของบุคลากรที่บริษัทมี อีกทั้งการประมูลงานใหม่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่ม Backlog สู่การรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง” นายชวลิต กล่าวเพิ่มเติม