บล.ฟิลลิป:

ธนาคารกรุงไทย – KTB ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นต่อใน 4Q66

Key Point

เป็นธนาคารที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 66 และยังคาดจะเพิ่มขึ้นต่อได้ใน 4Q66 สินเชื่อยังน่าจะโตต่อจากสินเชื่อภาครัฐ จากที่ผ่านมาเน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ อาจจะให้ผลตอบแทนต่ำลง แต่ความเสี่ยงก็ต่ำกว่าด้วย ยังคุ่งมีการลงทุนทาง it อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงพัฒนาแอปเป๋าตัง ยังคงราคาพื้นฐาน 20.30 บาท ยังมีส่วนต่างเหลือ ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ ปันผลน่าสนใจ แนะนำ “ซื้อ”

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 66 และน่าจะเพิ่มต่อใน 4Q66

ด้วยการเน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินเชื่อภาครัฐ ทำให้สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยของ KTB ใน 3Q66 เพิ่มขึ้นมาเป็น 44% จาก 43% ณ สิ้นปี 65 และทำให้สัดส่วนสินเชื่อภาครัฐของ KTB ลดสัดส่วนลงเหลือ 16% ประกอบกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ KTB เป็นธนาคารที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้น 3Q66 เพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่มธนาคาร เมื่อเทียบกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 65 โดยเพิ่มขึ้นถึง 0.58%ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 0.31% เท่านั้น นอกจากนี้จากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นอีกในช่วงปลาย 3Q66 ยังน่าจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTB ใน 4Q66 ยังเพิ่มสูงขึ้นได้ต่อ ถึงแม้ว่าใน 3Q66 KTB จะมีสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐกลับมาเป็น 17% เท่ากับช่วงสิ้นปี 65 ก็ตาม

ยังติดตามสถานการณ์ NPL อย่างใกล้ชิด

ถึงแม้ว่า KTB จะมี NPL ใน 3Q66 ลดลงเหลือ 3.10% จาก 2Q66 ที่มี NPL อยู่ 3.11% แต่ก็ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีลูกค้าบางส่วนมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และทำให้มีลูกค้าสินเชื่อบ้านบางส่วนมีการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง KTB มองว่าในช่วงปลายปีที่ลูกค้าได้รับการขึ้นเงินเดือน รวมไปถึงการได้รับโบนัส น่าจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ปรับเพิ่มสูงขึ้นได้ โดยจะยังคงเน้นปล่อยสินเชื่อในกลุ่มนี้ต่อไป โดยอาจจะเลือกกลุ่มที่มีผลตอบแทนลดลง แต่เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำลง แต่สามารถหักชำระจากเงินเดือนได้ ซึ่งจะลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระได้

จะมีการลงทุนต่อ คาดกำไร 4Q66 อาจจะลดลง q-q แต่เพิ่ม y-y

จะยังมีการลงทุนต่อ โดยเฉพาะด้าน IT เพื่อเพิ่มตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังจะมีการพัฒนาความสามารถของแอปเป๋าตังให้สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ในช่วง 4Q66 ปกติจะเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายเข้ามามาก ทำให้ทางฝ่ายคาดว่ากำไรอาจจะลดลง q-q ได้ แต่รายได้ดอกเบี้ยที่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อน่าจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นได้ y-y

ยังคงประมาณการ และราคาพื้นฐาน

ทางฝ่ายยังคงประมาณกำไรปี 66 ของ KTB ไว้ที่ 42 พันลบ. เพิ่มขึ้น 24% y-y และเพิ่มเป็น 45 พันลบ. ในปี 67 หรือเพิ่มขึ้น 8.4% y-y ยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 20.30 บาท ยังมีส่วนต่างอยู่พอสมควรยังแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย
  2. ความเสี่ยงด้านเครดิต
  3. การเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
- Advertisement -