บล.ฟิลลิป:

เจริญโภคภัณฑ์อาหาร – CPF ราคาสุกรกำลังปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุล

Key Point

3Q66 ราคาสุกรในประเทศยังอ่อนตัว ส่วนทิศทางราคาสุกรต่างประเทศดีขึ้น แต่แปลงมาเป็นเงินบาทได้ลดลง ทำให้รายได้รวมอ่อนตัว y-y และ q-q ส่งผลให้ยังคงมีผลขาดทุนสุทธิเป็นไตรมาสที่ 3 คาดราคาสุกรในประเทศพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ปัจจุบันเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น และหลายส่วนงานมีทิศทางดีขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ราคาสุกรจะปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุลในระยะถัดไป ราคาพื้นฐาน 22.80 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ราคาสุกรอ่อนตัวขณะต้นทุนสูงขึ้น

9M66 รายได้ขาย 438,525 ลบ. -3.7%y-y GPM 10.9% -320bps y-y มีขาดทุนสุทธิ 5,328 ลบ. -143.8%y-y แม้มีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นมีการขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม แต่ไม่สามารถชดเชยผลของราคาสุกรในหลายประเทศที่ปรับตัวลงมามากกว่า ขณะที่ต้นทุนพลังงานและวัตถุดับเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีผลประกอบการทั้งปีเป็นขาดทุน

3Q66 ยังมีผลขาดทุนอยู่

3Q66 ทิศทางราคาสุกรในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ทั้งเวียดนามและรัสเซีย มีกำไรจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ ภาพรวมส่วนงานในต่างประเทศดูดีขึ้น แต่ด้วยผลกระทบเรื่องค่าเงินทำให้แปลงมาเป็นเงินบาทได้ลดลง ขณะที่ราคาสุกรในไทยยังอ่อนตัวลุงมาถึงระดับ 56 บาท ในช่วงต้นเดือน ต.ค. ขณะที่มีส่วนแบ่งกำไรดีขึ้นจาก HyLife ยกเลิกส่วนงานที่ขาดทุนในสหรัฐ ทำให้ขาดทุนลดลง และ CTI ที่มีกำไรมีขาดทุนสุทธิ 1,811 ลบ. -135.5%y-y -128.6q-q

4Q66 ค่อย ๆ ฟื้นตัว

4Q66 คาดราคาสุกรค่อยๆปรับตัวดีขึ้นทั้งไทยและเวียดนาม จากการผ่านพ้นฤดูฝน ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลง และมีส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้น q-q โดยหลักมาจากส่วนงาน HyLife ที่คาดว่าจะกลับมากำไร และ CTI ที่เริ่มกลับมากำไรตั้งแต่ 3Q66 คาดผลประกอบการอาจยังขาดทุนอยู่แต่ฟื้นตัวได้ q-q

ปี 67 หลายส่วนงานดีขึ้น

ภาพปี 67 ยังคงเห็นรวมธุรกิจในหลายประเทศปรับตัวดีขึ้น จากทั่ง Belisio ที่มี EBIDA เป็นบวก และ HyLife กลับมากำไร ส่วน CTI จะเพิ่มปริมาณเลี้ยงสุกรและเน้นแปรรูปมากขึ้น ส่วนธุรกิจในไทย ปัจจุบันเห็นราคาสุกรในประเทศปรับตัวดีขึ้น คาดว่าพ้นจุดต่ำสุดในช่วงต้นเดือน ต.ค. ไปแล้ว อุตสาหกรรมจะปรับสมดุล ราคาสัตว์บกจะปรับตัวดีขึ้นตามวัฐจักรปี 67 จะเห็นราคาสุกรค่อยๆปรับตัวเข้าสู่สมดุล ส่วนในด้านปริมาณขายยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจสัตว์น้ำที่โดนผลกระทบจากปริมาณกุ้งในเอกวาดอเข้ามาสู่ตลาดมาก จะมีการปรับโดยเน้นแปรรูปขายในประเทศมากขึ้น และส่งออกกุ้งไซต์ใหญ่จะทำให้ช่วยหลบเลี่ยงการแข่งขันได้ และปีนี้ที่เริ่มอนุญาตให้นำเข้าข้าวสาลีมาทดแทนได้  และกฎหมาย AFTA ที่สามารถนำเข้าข้าวโพดจากชายแดน จะทำให้มีต้นทุนต่ำลงตั้งแต่ 4Q66 จนไปถึงปี 67 กลยุทธ์ปีหน้าจะเน้นสร้างประสิทธิภาพในการผลิต บำรุงรักษาเครื่องจักรเดิม ควบคุมค่าใช้จ่าย และอาจหยุดส่วนงานในพื้นที่ที่มีแนวโน้มอ่อนตัว ส่วนการขยายการลงทุนเพิ่ม อาจเป็นปัจจัยรอง เนื่องจากมี Net D/E สูงขึ้นที่ 1.7 เท่า

ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 22.80 บาท/หุ้น อิง DDM Method

ทางฝ่ายประเมินราคาหุ้น โดยใช้วิธี Dividend Discount Model (DDM) จากราคาสุกรที่พื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่งผลต่อการฟื้นตัวในปี 67 ทางฝ่ายฯ ปรับรายได้และกำไรลง ปรับราคาพื้นฐานปี 67 ลงมาที่ 22.80 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก และคาดว่าราคาหุ้นสามารถฟื้นตัวได้ตามวัฐจักรธุรกิจ คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. การเกิดโรคระบาดต่างๆ ในสัตว์
  2. ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์
  3. กฎระเบียบการนำเข้าของคู่ค้าในประเทศต่างๆ
- Advertisement -