TMI ปิดงบ 9 เดือนปี 66 กำไรพุ่ง 15% แตะ 28 ล้านบาท ส่งซิกไตรมาส 4/66 เติบโตโดดเด่น
TMI เผยงบงวด 9 เดือนแรกปี 66 กำไรสุทธิ 28.24 ล้านบาท เติบโต 14.61% พร้อมรับรู้รายได้จากการขายและบริการ 362.05 ล้านบาท รับอานิสงส์จากขายไฟฟ้าพุ่งส่งซิกไตรมาส 4/66 ยอดขายธุรกิจหลอดไฟส่องสว่างขยาย-โรงไฟฟ้า โตต่อเนื่องรับช่วงไฮซีซั่น
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 28.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.61%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 24.64 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโต เป็นการรับรู้รายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 362.05 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้การขายไฟฟ้า 80.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 33.71 ล้านบาท รวมถึงบริษัทมีการควบคุมต้นทุนขายและบริการ และต้นทุนในการจัดจำหน่ายสิ้นค้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 110.03 ล้านบาท ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการขายไฟฟ้าอยู่ที่ 23.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.54%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 12.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.42 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2566 บริษัทยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานมีทิศทางที่สดใส รับอานิสงส์ธุรกิจหลอดไฟส่องสว่างที่ขยายตัวเต็มที่ในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังการเปิดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครบทั้ง 3 แห่ง รวมกำลังการผลิต 5.4 เมกะวัตต์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ จากภาครัฐอย่าง ต่อเนื่อง และการขายคาร์บอนเครดิตที่มี 92,000 ตัน/ปี ของโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
“สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2566 มีแนวโน้มการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีโอกาสที่จะพุ่งทำนิวไฮรอบใหม่ จากการดำเนินธุรกิจอุปกรณ์ส่องสว่างธุรกิจพลังงานในไตรมาส 4 จาก/2566 นับเป็นการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน” นายธีระชัย กล่าว
