TTA แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานปี’67 ที่ 7.40 บาท

บล.ฟิลลิป:

TTA เดินเรือเป็นกลาง แต่ MML ยังดี

ซื้อ TP’67 : 7.40

แนวโน้ม 4Q66 ดีขึ้น y-y, q-q จากค่าระวางเรือครึ่งแรกของไตรมาสที่ฟื้นตัวจาก 3Q66 ที่ 31% น่าจะช่วยพยุงในช่วงครึ่งหลังที่เข้าใกล้ช่วงหยุดปลายปี ส่วน MML มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567 ที่จะรับรู้รายได้สูง 384 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าในปี 2566 และ PMTA 4Q66 เป็นฤดูขายปุ๋ยที่เวียดนาม ซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูก

• 4Q66 แนวโน้มดีขึ้น y-y, q-q: ธุรกิจเดินเรือมีแนวโน้มฟื้นตัว q-q โดย 1 ต.ค.-15 พ.ย. ดัชนี BSI +31% จาก 3Q66 โดยมีค่าระวางเฉลี่ยของตุลาดที่ 13,225 ดอลลาร์/วัน/ลำ จากการ delay การ re-stock ของจีนใน 3Q66 จากดัชนีที่ฟื้นตัวขึ้นในครึ่งไตรมาสแรก น่าจะช่วยพยงคาดค่าระวางเรือได้ในระดับหนึ่ง ก่อนจะอ่อนตัวเมื่อใกล้ช่วงหยุดยาวปลายปี ซึ่ง TTA สามารถทำค่าระวางเรือสุทธิ (หักค่าคอมมิชชั่น) ได้สูงกว่ามาโดยตลอด และ 3Q66 สูงกว่าตลาด 27% และธุรกิจเดินเรือมีตั้นทุนคงที่สูง ดังนั้นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะไหลไปเป็นกำไรสุทธิเป็นส่วนใหญ่ และ MML ยังมีแนวโน้มที่ดีจาก 4Q66 จะรับรู้รายได้ที่ 77 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,730 ลบ. (35.50 บาท/ดอลลาร์) และ PMTA ยังดีต่อเนื่องจาก 3Q66 จากการเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกในช่วง 4Q66
• ปี 2567 เดินเรือแนวโน้มยังเป็นกลาง: จากคาดการณ์ของ Clarksons Research ในปี 2567 ความต้องการขนส่งทางเรือโต 1.8% y-y ในรูปของตัน-ไมล์ และกองเรือโลกโต 2.2% แต่หากรวมผลกระทบจากกฎ EEXI และ CII (ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ทำให้เรือวิ่งช้าลง จะลดกองเรือลงได้ 1.5-2% ยังอยู่ในภาวะสมดุล โดยอาจมีปัจจัยเร่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจีน
• MML แนวโน้มยังดีกว่าในปี 2567: สิ้น 3Q66 MML มี Backlog ที่ 697 ล้านดอลลาร์ เป็น record high จะรับรู้ใน 4Q66 ที่ 11% และปี 2567 ที่ 55% หรือ 384 ล้ำนดอลลาร์ (ราว 13,632 ลบ.) ซึ่ง 2566 ที่คาด 9,300-9,500 ลบ. ทำให้กำไรดีขึ้น และยังมีโอกาสหางานใหม่ ๆ เพิ่ม Backlog และรับรู้รายได้สูงขึ้น ส่วน Backlog อีก 34% จะไปรับรู้ในปี 2568-2569

- Advertisement -