บล.ฟิลลิป:

อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง – AMANAH พลาดเป้าปี แต่ 4Q66 จะดีกว่า 3Q66

Key Point

ในปี 66 สินเชื่อของ AMANAH อาจทำได้ต่ำกว่าเป้า อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เข้า High season และการเร่งเพิ่มยอดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้คาดว่า 4Q66 สินเชื่อของ AMANAH จะเร่งตัวขึ้น และทำให้ผลประกอบการเติบโตขึ้น q-q ได้ มีการเร่งจัดการ NPL ทั้งการเร่งตามเก็บหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ รวมไปถึงอาจจะมีการขาย NPL ออกไปด้วย ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรลง จากสินเชื่อที่ต่ำกว่าเป้า และการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาด ปรับราคาพื้นฐานเป็น 2.34 บาท แนะนำ “ซื้อ”

การปล่อยสินเชื่อในปี 66 อาจจะพลาดเป้า

AMANAH ตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 2 พันลบ. อย่างไรก็ตาม 9M66 สามารถปล่อยได้เพียง 1.4 พันลบ. และ 3Q66 เป็นไตรมาสที่ปล่อยสินเชื่อได้น้อยที่สุดในรอบปี โดยปล่อยได้เพียง 386 ลบ. จาก 1Q66-2Q66 ปล่อยได้ 515 ลบ. และ 5.12 ลบ.ตามลำดับ การที่ปล่อยสินเชื่อได้น้อยลงใน 3Q66 เกิดจากผลกระทบจากเศรษฐกิจ ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น และทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อลดลง ในขณะที่การปฏิเสธลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ทางบริษัทยังเร่งปรับโครงสร้างหนี้ทำให้กระทบกับการหาสินเชื่อใหม่ของเจ้าหน้าที่การตลาด

คาดสินเชื่อเร่งตัวขึ้นใน 4Q66 รวมไปถึงผลประกอบการ

ในไตรมาส 4 ปกติจะเป็น High season ของการปล่อยสินเชื่อ นอกจากนี้ทาง AMANAH นั้นยังมีแผนที่จะเร่งการปล่อยสินเชื่อ ทำให้คาดว่าสินเชื่อใน 4Q66 จะเร่งตัวขึ้นจาก 3Q66 และน่าจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่กำไร 4Q66 จะเพิ่มสูงขึ้น q-q แต่อาจจะไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบ y-y เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน รวมไปถึงการตั้งสำรอง

เร่งแก้ปัญหา NPL

ใน 3Q66 AMANAH มี NPL เพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็น 4.99% จาก 3Q66 ที่มีอยู่ 3.99% และทาง AMANAH ตั้งเป้าที่จะไม่ให้ NPL เกินกว่าระดับนี้ จึงได้มีการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้า มีการเร่งการเก็บหนี้ให้ลูกค้าไม่มีงวดค้าง ซึ่งการเร่งลดระดับ NPL นี้นอกจากจะทำให้ NPL ไม่เพิ่มขึ้นจะยังทำให้ลดภาระในการตั้งสำรองด้วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขาย NPL ออกไปใน 4Q66 ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้มีการรับรู้รายได้พิเศษจากการขาย NPL นี้ได้ใน 4Q66 ด้วย

ปรับลดประมาณการกำไรปี 67 และปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 67

จากการปล่อยสินเชื่อได้ต่ำกว่าเป้า และการตั้งสำรองที่สูงกว่าที่คาดไว้เดิม ทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรปี 66 ของ AMANAH ลงเหลือ 201 ลบ. ลดลง 35% y-y และคาดว่าการปล่อยสินเชื่อ การตั้งสำรองจะกลับมาเป็นปกติในปี 67 ทำให้คาดว่ากำไรจะเพิ่มเป็น 355 ลบ. หรือเพิ่มขึ้นถึง76.3% y-y ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 2.34 บาท ยังมีส่วนต่างเหลืออยู่พอสมควรจึงยังคงแนะนำ ซื้อ

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
  2. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นหลัก
  3. ความเสี่ยงด้านคุณภาพของลูกหนี้
- Advertisement -