บล.พาย:

SVI: SVI PCL ภาพไม่สู้ดีแต่ราคายังน่าดึงดูด

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 18% เป็น 7.92 บาท

คำนวณด้วยวิธี GGM (Ke: 10%, LT-growth: 6.00%) เพราะลูกค้าหลักในตลาด Bitcoin (ราว 20% ของรายได้รวมปี 2022) ยกเลิกคำสั่งซื้อทั้งหมด ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่อีกแห่งในตลาดกล้องวงจรปิด ก็เผชิญกับปัญหาสต็อกล้นเกิน กำไรปกติไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 243 ล้านบาท (-51%YoY, -7%QoQ) ต่ำกว่าคาดอย่างมาก ผู้บริหารคาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวเล็กน้อยในไตรมาส 4/23 แต่แนวโน้มค่อยๆ ลดลง ถึงครึ่งแรกปี 2024 ทั้งนี้ แม้จะมีภาพไม่สู้ดีแต่เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะราคาหุ้นที่น่าดึงดูด บวกกับการที่ SVI มีประวัติการเติบโตด้านยอดขายที่แข็งแกร่ง (โตเฉลี่ย 11% ต่อปีในกรอบ 20 ปีที่ผ่านมา)

การประชุมนักวิเคราะห์ให้ภาพลบ

  • ลูกค้าหลักของ SVI ในตลาด Bitcoin ที่คิดเป็นสัดส่วนราว 20% ต่อยอดขายรวมปี 2022 ยกเลิกคำสั่งซื้อทั้งหมดในไตรมาส 3/23 คาดเป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโต แต่เราไม่คาดว่าคำสั่งซื้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญไปมากกว่านี้ เพราะลูกค้าหลักรายอื่นของ SVI ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างมั่นคง (กล้องวงจรปิด นาวี ระบบตรวจยางยานยนต์ ฯลฯ)
  • ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2023 เป็น US$680 ล้าน ลดลง 9% จากเดิมที่ US$750 ล้าน สืบเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ และการลดคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายหลัก การปรับประมาณการดังกล่าว ชี้เป็นนัยว่าผู้บริหารคาดยอดขายจะฟื้นตัว QoQ เป็นประมาณ US$174 ล้าน (-13% YoY, +9% QoQ) ส่วนประมาณการใหม่ของเราค่อนข้างสอดคล้องกับของผู้บริหาร (ไตรมาส 3 และ 4 มักเป็นช่วง high season ของ SVI)
  • SVI อาจปรับประมาณการปี 2027 ลงจาก US$2 พันล้าน (ประกาศหลังออกงบไตรมาส 4/23) แต่เรายังมองบวกต่อภาพรวมระยะยาวของบริษัท ทั้งนี้ ยอดขายที่ลดลงมากสุด YoY ครั้งล่าสุดคือ ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ 2009 (-12% YoY) ซึ่งหลังจากนั้น บริษัทสามารถฟื้นตัวแข็งแกร่งในปีถัดไป (+36% YoY) ทั้งนี้ ประมาณการยอดขายปี 2027 ของเราก่อนที่จะปรับประมาณการนั้นมีภาพที่รัดกุมยิ่งกว่ามากที่ US$1.5 พันล้าน
  • ส่วนภาพรวมปี 2024 ผู้บริหารคาดถึงยอดขายที่ทรงตัว HoH ในครึ่งแรกปี 2024 และมองว่าอุปสงค์จะฟื้นอีกครั้งในครึ่งหลังปี 2024 ปัจจุบัน SVI มี backlog อยู่ US$600 ล้านที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า (ทรงตัวจากไตรมาส 2/23)
  • SVI ได้ลูกค้าจีนใหม่จากตลาดเครื่องเสียงและวิดีโอเพิ่มเข้ามา ลูกค้ารายนี้จะสร้างยอดขายต่อปีในกรอบ US$50-US$80 ล้าน (7%-11% ต่อยอดขายปี 2022) ซึ่งจะชดเชยกับคำสั่งซื้อที่ลดลงจากลูกค้าในตลาด Bitcoin ได้ส่วนหนึ่ง

สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/23

  • กำไรปกติไตรมาส 3/23 อยู่ที่ราว 243 ล้านบาท (-51% YoY, -7% QoQ) ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ส่วนที่ลดลง YoY เป็นผลจากอุปสงค์โดยรวมที่อ่อนแอและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่หดตัว
  • ยอดขายไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (-20% YoY, ทรงตัว QoQ) ยอดขายในสกุลเงินดอลลาร์ฯ อยู่ที่ US$159 ล้าน (-18% YoY, -4% QoQ) สาเหตุที่ยอดขายลดลงแรงเป็นเพราะการลดคำสั่งซื้อลงต่อเนื่องในไตรมาส 3/23 จากลูกค้าในกลุ่ม Bitcoin ซึ่งมีสาเหตุจากอุปสงค์อ่อนแอในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ backlog โดยรวมของบริษัทอยู่ที่ US$600 ล้าน (ทรงตัวจากไตรมาส 2/23)
  • GPM ไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 8.8% (-1.2ppts YoY, +0.1ppts QoQ) ที่ลดลงแรง YoY เป็นเพราะ 1) สัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยทำกำไรและ 2) บาท/ดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หรืออยู่ที่ 35.02 บาทในไตรมาส 3/23 (34.37 บาทในไตรมาส 2/23 และ 36.34 ในไตรมาส 3/22)สมมติฐานของเราสำหรับทั้งปี 2023 อยู่ที่ 35.00 บาท

สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/23

  • กำไรปกติไตรมาส 3/23 อยู่ที่ราว 243 ล้านบาท (-51% YoY, -7% QoQ) ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ส่วนที่ลดลง YoY เป็นผลจากอุปสงค์โดยรวมที่อ่อนแอและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่หดตัว
  • ยอดขายไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (-20% YoY, ทรงตัว QoQ) ยอดขายในสกุลเงินดอลลาร์ฯ อยู่ที่ US$159 ล้าน (-18% YoY, -4% QoQ) สาเหตุที่ยอดขายลดลงแรงเป็นเพราะการลดคำสั่งซื้อลงต่อเนื่องในไตรมาส 3/23 จากลูกค้าในกลุ่ม Bitcoin ซึ่งมีสาเหตุจากอุปสงค์อ่อนแอในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ backlog โดยรวมของบริษัทอยู่ที่ US$600 ล้าน (ทรงตัวจากไตรมาส 2/23)
  • GPM ไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 8.8% (-1.2ppts YoY, +0.1ppts QoQ) ที่ลดลงแรง YoY เป็นเพราะ 1) สัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยทำกำไรและ 2) บาท/ดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หรืออยู่ที่ 35.02 บาทในไตรมาส 3/23 (34.37 บาทในไตรมาส 2/23 และ 36.34 ในไตรมาส 3/22)สมมติฐานของเราสำหรับทั้งปี 2023 อยู่ที่ 35.00 บาท

ปรับประมาณการกำไรปี 2023-24 หลังจากลูกค้าลดคำสั่งซื้อ

  • ปรับลดประมาณการกำไรปี 2023 ลง 18% เราปรับลดประมาณการยอดขายปี 2023 เป็น US$681 ล้าน (เดิมที่ US$761 ล้าน) เพื่อสะท้อนถึงอุปสงค์ที่ต่ำคาด และการลด/เลื่อน คำสั่งซื้อจากลูกค้ารายหลัก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ก็ออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อย
  • แหล่งรายได้หลักที่ขาดหายไปกระทบประมาณการกำไรปี 2024 เช่นกัน เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าลูกค้ารายหลักในตลาด Bitcoin จะกลับมาสั่งซื้อเมื่อใด เราจึงคงมุมมองรัดกุมต่อไป ละการกลับมาไว้เป็น upside ที่อาจเกิดขึ้น ประมาณการยอดขายชุดใหม่ของเราสำหรับปี 2024 อยู่ที่ US$733 ล้าน (+8% YoY) หนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่มลูกค้าเดิมในครึ่งหลังปี 2024 รวมถึงลูกค้าจีนรายใหม่จากกลุ่มเครื่องเสียงและวิดีโอที่เพิ่มเข้ามา (คาดสร้างยอดขายรายปีได้ US$50-US$80 ล้าน)

Valuation Methodology

อัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลกำหนดโดยอัตราการจ่ายในอดีตและแผนในอนาคตของผู้บริหาร สมมติฐานอัตราการเติบโตด้านเงินปันผลกรอบ 5 ปีและการเติบโตในระยะยาวนั้นอิงจากการประเมินกลยุทธ์บริษัท พอร์ตสินค้าที่ยืดหยุ่นดี และศักยภาพในระยะยาว ส่วน ต้นทุนเงินทุน (Ke) อิงผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลังของ SET ที่ 10%

Downside risk ต่อประมาณการของเราคือ 1) อุปสงค์โดยรวมที่ต่ำคาด 2) การสูญเสียคำสั่งซื้อจากลูกค้าหลักในปริมาณที่มีนัยสำคัญและ 3) เงินบาท/ดอลลาร์ฯแข็งค่า

Revenue Breakdown

SVI คือผู้ให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (EMS) ทำการผลิตสินค้าสำเร็จรูป (turnkey box build) ในรูปแบบการรับจ้างผลิต (OEMs) และการผลิตตามรูปแบบของตนเอง (ODMs) และให้บริการด้านการประกอบแผ่นพิมพ์ลายวงจร (PCBA) การผลิตสินค้าสำเร็จรูปมีทั้งสินค้าพร้อมใช้ (เช่น กล้องวงจรปิด) หรือชิ้นส่วนประกอบที่สามารถนำไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น (เช่น ตัวแปลง AC-DC) บริษัทเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีมูลค่าส่วนเพิ่มหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ตลาดเฉพาะที่มีปริมาณการผลิตต่ำถึงปานกลาง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

  • ระบบควบคุมอุตสาหกรรม (27% ของรายได้รวม): ได้แก่อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ระบบทำความร้อนและเย็นที่ใช้ในเรือขนส่ง และชิ้นส่วนระบบ 5G อื่น ๆ ที่ใช้ในเสาสัญญาใยแก้วนำแสง
  • สื่อสารโทรคมนาคม (39% ของรายได้รวม): หลัก ๆ คือกล้องไอพี (คิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของยอดขายรวม) ศูนย์ขุดบิทคอยน์ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย
  • โสตวีดีทัศน์ (8% ของรายได้รวม): ระบบเสียง อุปกรณ์เครื่องเสียงสำหรับนักดนตรีมืออาชีพ ฯลฯ
  • อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ (7% ของรายได้รวม): อุปกรณ์ช่วยในการฟังและอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการใช้งานในโรงพยาบาลบริษัทคาดว่าหน่วยธุรกิจนี้จะมีการเติบโตสูงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (6% ของรายได้รวม): ระบบตรวจความดันในยางรถยนต์ หน่วยติดตามการขับขี่ (telematics) ระบบปิดประตูในรถไฟฟ้า ฯลฯ
  • อื่น ๆ (12% ของรายได้รวม): ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น พลังงานสะอาด (กังหันลม) เครื่องฉาย และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋ว (ป้ายราคาดิจิทัลในร้านชำ)
- Advertisement -