ยังคงออกด้านข้าง / 1,410-1430

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET อยากขึ้น แต่ขึ้นไม่ไหว: โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 2.3% ปิดที่ $77.60 ต่อบาร์เรล หลังรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจาก OPEC ว่าการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม อีกทั้งการประชุม ครม.ในวันนี้ มีประเด็นสำคัญ คือ การพิจารณางบปี 67 และการจัดตั้ง Thailand ESG Fund ซึ่งหากครม.เห็นชอบในสองประเด็นดังกล่าว จะเป็นแรงหนุนในเชิง Sentiment เพิ่มเติมต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ใน SETESG ขณะที่หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง มองมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น หลังนายกฯ เผยเรื่องการแก้หนี้สินทั้งระบบ โดยจะแถลงข่าวการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ส่วนหนี้ในระบบจะแถลงอีกครั้งในวันที่ 12 ธ.ค. อย่างไรก็ดี มองทางขึ้นของ SET Index ถูกจำกัดจาก 1) ภาพศก.ไทยที่อ่อนแอ หลัง GDP 3Q66 ขยายตัวเพียง 1.5%y-y ส่งผลให้ 9M66 ขยายตัว 1.9% y-y อีกทั้งสภาพัฒน์ได้ปรับลดประมาณการ GDP ปี 66 ลงสู่ 2.5% ซึ่งหมายความว่า GDP4Q66 ต้องมีการขยายตัวถึง 4.1% y-y หากแต่ทางฝ่ายมองมีโอกาสต่ำกว่าประมาณการดังกล่าว เนื่องจากการบริโภคเอกชนที่เป็นแรงหนุนต่อศก.มาตลอด 9M66 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงใน 4Q66 ตามการบริโภคที่มีแนวโน้มเลื่อนออกไป เพื่อรอมาตรการจากภาครัฐไม่ว่าจะเป็น Digital Wallet หรือ e-Refund และ 2) การชะลอการลงทุนของนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เนื่องจากรอติดตามรายงานการประชุมของ FOMC ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เวลาตี 2 ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศท่างอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) SETESG: AWC, BCPG, BDMS, GPSC, GULF, PTT 2) พลังงานต้น-กลางน้ำ: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 3) นิคมฯ: AMATA, WHA 4) ความหวังศก.จีนฟื้นตัว: IVL, PTTGC, SCGP, STA และ 5) Selective: AP, CPAXT, CRC, LH

ปัจจัยบวก

  • สนค.เผยดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3Q66 อยู่ที่ระดับ 54.99 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q66 ที่ระดับ 54.83 เพราะประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากภาคการเกษตร กอปรกับนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภาระค่าครองชีพ
  • ก.ล.ต.ส่งหนังสือถึงตลท.เพื่อให้ใช้อำนาจที่มีในการสร้างความเชื่อมั้นให้กลับคืนมาดังนี้ 1) ย้ำว่าได้ให้อำนาจกับคณะกรรมการตลท.ในการกำหนดราคาการทำซอร์ตเซล 2) ให้ตลท.เพิ่มกลไกการตรวจสอบการใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง และ 3) ให้ตลท.ทบทวนการซื้อขายผ่านโปรแกรมเทรดดิ้งให้เกิดความเป็นธรรมกับนักลงทุน

ปัจจัยลบ

  • ธปท.เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ 3Q66 หดตัวเล็กน้อยที่ 0.9% จากระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคณภาพ (NPL หรือ stage 3) 3Q66 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 494.6 พ้นลบ. คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.70%
  • China Trading Desk เผยผลสำรวจมุมมองการเดินทางของชาวจีนว่า ไทยเคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆ ในใจนักเดินทางชาวจีนในปีนี้ แต่หล่นชั้นลงมาใน 3Q66 โดยไทยร่วงลงสู่อันดับ 6 โดยได้รับผลกระทบจากภาพยนตร์จีนเรื่อง Lost in the Stars และ No More Bets

PICKS OF THE DAY

GPSC BUY

  • เป้าหมาย 50.00 / 51.50 แนวรับ 45.00
  • แนวโน้มปรับขึ้น Ft ปีหน้า: กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่า Ft สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย.67 จำนวน 0.46-1.96 บาท/หน่วย โดยคาดจะชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติที่จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 387 บาท/MMBTU ได้ ช่วยหนุนการฟื้นตัวของกำไร เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนปริมาณขายให้ลูกค้าอุตสาหกรรมค่อนข้างมากกว่า 53% ของปริมาณขายไฟใน 3Q66 ซึ่งค่าไฟอ้างอิงตามค่า Ft
  • ราคามี upside: ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับราคาพื้นฐาน ทำให้มี upside พอสมควร นอกจากนี้ระยะสั้นจะมีปัจจัยหนุนจากการตั้งกองทุน TESG ของรัฐบาล

LH BUY

  • เป้าหมาย 8.00 / 8.20 แนวรับ 7.60
  • คาดกำไร 4Q66 ฟื้นตัว: LH มี backlog ยกมาที่สูงขึ้น จากช่วง 3Q66 เปิดโครงการบ้านระดับราคาสูง ซึ่งยังโอนได้ไม่ทัน จะเข้ามาเป็นยอดโอนใน 4Q66 บวกกับเป็น ไตรมาสที่เปิดโครงการแนวราบสูงสุดในปีนี้ ในขณะที่เป็น high season ของเทศทางท่องเที่ยวและยังมี Grand center point-สุรวงศ์ ที่จะเปิดปลายเดือน พ.ย. คาดรายได้โอน โรงแรม-ค่าเช่า จะฟื้นตัว q-q และยังมีกำไรพิเศษจากการขาย 2 โรงแรมเข้า REIT 1,900 สุทธิหลังภาษี มองกำไรสุทธิเติบโต y-y และ q-q
  • Div yield ดี: หากเทียบในด้าน Div. yield คาดปี 66 อยู่ราว 7.4% ยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตฯใน ณ วัน XD ที่ราว 5-6%
- Advertisement -