KS Daily View 22.11.2023 >>> กลยุทธ์ช่วงนี้เน้น Bottom up คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,410-1,425 จุด หุ้นแนะนำ SJWD, BCH
สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้
ต่างประเทศ :ดัชนี DJIA -0.18%, S&P 500 -0.20%, NASDAQ -0.59%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Healthcare (+0.61%), Materials (+0.39%), Consumer Staples (+0.36%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ IT (-0.83%), Real Estate (-0.47%), Consumer Discretionary (-0.38%) เป็นต้น
ในประเทศ: SET Index +4.17 จุด หรือ +0.29% ปิดที่ 1,423.61 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ FORTH (+8.21%), BYD (+7.79%), SJWD (+4.48%), SNNP (+3.53%) เป็นต้น ส่วนที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ AOT (-2.54%), TLI (-1.94%), TASCO (-1.65%), PSL (-1.27%) เป็นต้น
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินตลาดหุ้นไทยปรับตัวในกรอบ 1,410 – 1,425 จุด ภาพรวมตลาดหุ้นโลก, พันธบัตร และค่าเงิน USD ทรงตัวหลังรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด (FOMC minutes) ระบุเฟดจะยังคงยืนดอกเบี้ยในระดับสูงต่อ ขณะที่ไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด ในส่วนของ NVIDIA รายงานรายได้ และกำไร 3Q23 ดีกว่าคาด แต่ให้มุมมองระมัดระวังว่าการที่สหรัฐฯแบนจีนอาจกระทบรายได้ใน 4Q23 ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง -1% วานนี้
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สั่งปรับเงิน ไบแนนซ์ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนทรัพย์สินดิจิตอลรายรายใหญ่ของโลก จำนวน 4.3 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า แพลตฟอร์มนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรต่างๆ ที่บังคับใช้ทั่วโลกได้ ขณะที่ซีอีโอประกาศลาออกหลังรับผิดข้อหาฟอกเงิน ส่งผลให้ราคา BTC ล่วงแรงกว่า -4% วานนี้ และคาดจะเป็น sentiment ลบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น GULF, JTS เป็นต้น
2.) สรรพากร ออกประกาศเพิ่มเติม สำหรับรายได้ในต่างประเทศที่เกิดขึ้นก่อน 1 ม.ค. 2567 ให้ใช้กฎเดิมได้ คือ สามารถเอากลับข้ามปีปฎิทินได้ สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นหลังจาก 1 ม.ค. 2567 ให้ทำตามประกาศกระทรวงใหม่ คือ นำมาคำนวณภาษีในปีที่เอากลับมา
3.) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวว่า อินเดียใกล้บรรลุข้อตกลงกับ Tesla ที่จะเปิดทางให้ Tesla นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปจำหน่ายในอินเดียได้ในปีหน้า และสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดียภายในเวลา 2 ปี เทสลาจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำเริ่มแรกในการสร้างโรงงานในอินเดียประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและจะพิจารณาเพิ่มการซื้อชิ้นส่วนรถยนต์จากอินเดียมูลค่าสูงสุด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เทสลาจะผลิตแบตเตอรี่ในอินเดียเพื่อลดต้นทุน
4) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน กำลังพิจารณาที่จะสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ในญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ในการผลิตชิปล้ำสมัยขนาด 3 นาโนเมตร
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,400-1,440 จุด บนความคาดหวัง Soft Landing ของตลาด โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1.) ตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ต.ค.; 2.) Fund flow สะท้อนผ่านทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปีล่าสุดอยู่ที่ระดับ 3% +/-; 3.) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค., ดัชนี PMI เดือน พ.ย. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆได้แก่ ดัชนี PMI เดือน พ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น; และ 4.) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลไทยในด้านต่างๆ เช่น การบริโภค, การท่องเที่ยว, อสังหาฯ, โครงการลงทุนภาครัฐ เป็นต้น
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
SJWD (ราคาพื้นฐาน 17.0 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 (คาดว่าเป็นจุดสูงสุดของปี) และต่อเนื่องไปปี 2567 ทั้งจากธุรกิจปัจจุบันและการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ธุรกิจรถยนต์ ห้องเย็นและคลังสินค้า มี demand เข้ามามากขึ้น รวมถึงการที่จะไม่มีค่าใช้จ่ายควบรวมกิจการขนาดใหญ่เข้ามาเหมือนในไตรมาส 3/2566 ทำให้กำไรจะเป็นจุดสูงสุดของปี
BCH (ราคาพื้นฐาน 22.10 บาท) จากโมเมตัมของรายได้ที่โตดี มีการประหยัดต่อขนาด และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ติดตามการประชุม นวค. วันที่ 22 พ.ย. นี้อาจมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของกำไรใน 4Q23 และทั้งปี 2024 รวมถึงแผนธุรกจในปี 2024
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
-วันพุธติดตามตัวเลขยอดขายสินค้าคงทนสหรัฐ (Durable goods orders) สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดปรับตัวลดลง 3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.7% MoM และตัวเลขยอดขายสินค้าคงทนสหรัฐที่ไม่รวมยานยนต์ (Core durable goods orders) สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดปรับตัวลดลง 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.5% MoM ปิดท้ายด้วยช่วงข้ามคืนติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (University of Michigan – UOM) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 60.4 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 63.8
-วันพฤหัสบดีติดตามตัวเลขส่งออก-นำเข้า รวมถึงตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือน ต.ค. ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash manufacturing PMI) ของยุโรป สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 43.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 43.1
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมัน (German ifo business climate) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 87.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 86.9 และตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash manufacturing PMI)
-วันศุกร์ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมัน (German ifo business climate) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 87.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 86.9 และตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash manufacturing PMI) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 50 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50