บล.บัวหลวง:
STEC – สารสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
Recommend : คำแนะนำพื้นฐาน : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 12.00 บาท
What’s new?
เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ STEC (จัด On-site meeting ในรอบหลายปี) เช้าวันนี้ โดยรวมเชิงพื้นฐานมองเป็นกลาง จากธุรกิจอยู่ในช่วงขยาย Recurring income ที่ะต้องแบกรับส่วนแบ่งขาดทุนในระยะสั้น แต่สร้างมูลค่าระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ระยะสั้น เราคาดว่าจะเห็น Earnings downgrade flow จากตลาดราวๆ 15-25% เพื่อสะท้อนการขาดทุนโครงการรถไฟฟ้าเข้าไป ซึ่งประมาณการกำไรของเราได้ปรับนำลงไปแล้วตั้งแต่งบฯ ออก
Highlights:
- เป้าหมายปี 2024 ตั้งเป้าหมายรายได้ 3.1 หมื่นล้านบาท (+10%) บนสมมติฐาน
อู่ตะเภา 3 พันล้านบาท และ GM เฉลี่ยดีขึ้น YoY - Potential Project ที่คาดหวังประมูลปี 2024 มีราวๆ 3 แสนล้านบาท ที่คาดจะเห็นความชัดเจนจาก ครม. ช่วง 1Q24 เช่น รถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย, ทางด่วน N2, รฟฟ. สีแดงต่อขยาย เป็นต้น ส่วน Landbridge มองเป็นโครงการใหม่ที่น่าสนใจ
- STEC หันมาเน้นการลงทุนโครงการรายได้ประจำ และใน 3Q23 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนของสายสีเหลืองฯ และปีหน้ามีสีชมพู (สัดส่วน 15% ทั้ง 2 สาย) ถัดไปจะมี O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชฯ (สัดส่วน 10%, ปี 2025)
- ประเมินเบื้องต้นว่าสายสีชมพู จะ Traffic ดีกว่าสีเหลือง เพราะผ่านจุดสำคัญๆ มากกว่า
- และโครงการใหญ่สนามบินอู่ตะเภาคาดก่อสร้าง 3 ปี หวังจะเริ่มสร้างปีหน้า ประเด็นหลักๆ รอแผนรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินชัดเจน
- Data center JV จะเป็นผู้ให้บริการให้เช่า พท. และ Facilities โดยอยู่ระหว่างเจราจากับลูกค้า
View From Fundamental:
- แม้ระยะสั้น ราคาหุ้นอาจได้รับแรงกดดันจากการปรับประมาณการกำไรของตลาด เพื่อ Fine-tune ตัวเลขส่วนแบ่งขาดทุนของโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายก่อน แต่จะเป็นจังหวะที่น่าสะสม เพราะ 1) Downside risk ราคา น้อยมากแล้วด้วย PBV เพียง 0.7 เท่า, 2) Worst case scenario ที่ส่วนแบ่งขาดทุนสูงกว่าคาด ก็กระทบ Book Value น้อยกว่า 5%, 3) หากเทียบกรณี BTS ที่ถือหุ้นหลักโครงการดังกล่าวมากก็ถูกสะท้อนผลขาดทุนเข้าไปมาก แต่ราคาไม่ค่อยลง PBV อยู่ราว 1.7-1.8 เท่า และ 4) Catalysts งานประมูลใหม่จะมาหนุนราคาหุ้นรีบาวน์ต้นปีหน้า ดังนั้น เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท (อิง PBV ปี 2024 ที่ 1 เท่า)