วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,406 / 1,400 แนวต้าน 1,420 / 1,427
ตลาดเชื่อว่า FED ยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ขณะที่ตัวเลขแรงงานสหรัฐออกมากระตุ้นความหวังดังกล่าว / น้ำมันผันผวนหนักหลัง OPEC เลื่อนการประชุม / ตลาดหุ้นไทยไม่มีปัจจัยใหม่ ปริมาณการซื้อขายเบาบาง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นยังไม่กลับมา อาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง
Our View? “ความอ่อนแอ”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,406 / 1,400 และแนวต้านที่บริเวณ 1,420 / 1,427 ตลาดค่อนข้างเพิกเฉยกับรายงานการประชุม FOMC เดือน ต.ค. ที่ผ่านมาระบุว่าคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มองว่าการคุมเข้มนโยบายทางการเงินต่อไปเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากข้อมูลที่ FED ได้รับบ่งชี้ว่า FED ยังไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อให้ตามเป้าหมายได้ อีกทั้ง FED ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากพิจารณาอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาอยู่ในภาพการชะลอตัวลง พร้อมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงในช่วงเดือน พ.ย. เราประเมินว่าตลาดจะคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อในช่วงเดือน พ.ย. ยังมีโอกาสชะลอตัวลงได้ต่อ อีกทั้งเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 2.4 หมื่นราย สู่ระดับ 2.09 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดเป็นปัจจัยหนุนกระตุ้นความหวังในการที่ FED มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดย CME FEDWatch Tool ที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ที่น้ำหนักเกือบ 100.0% ในช่วงการประชุมเดือน ธ.ค.66 และ ม.ค.67 ขณะที่คาดอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสปรับลดลงในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย.67 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี ยัง อ่อนตัวลงต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเรายังแนะนำให้ระมัดระวังการเกิด Technical Rebound ใน US-Bond Yield บ้างในระยะสั้น คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ม.ค. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวนก่อน ปิดที่ระดับ 77.10 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.67 ดอลลาร์ (-0.86%) โดยได้รับปัจจัยลบจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออก น้ำมัน (OPEC) เลื่อนการประชุมการกำหนดนโยบายกำลังการผลิตของกลุ่มออกไป โดยไม่ระบุเหตุผล สะท้อนถึงความไม่แน่นอนถึงนโยบายของกลุ่ม OPEC คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้บ้าง
สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุน ขณะที่เรามองว่าปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทยที่ลดลง แม้ ตลท. ส่งสัญญาณคุมเข้มการ Short Sell และ Program Trading คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น ทั้งนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้ วงเงินซื้อไม่เกิน 1แสนบาทกำหนดระยะเวลาลงทุน 8 ปีเต็มมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Big-Mid Cap ที่มี ESG Rating ระดับ AAA 34 บริษัท อาทิ ADVANC, CPALL, CPAXT, CRC, KBANK, OR, PTT, PTTEP, PTTGC, SCC, SCGP ฯลฯ ได้ในระยะสั้น แต่เราไม่คาดว่าเม็ดเงินจากการลงทุนใน TESG จะเข้ามาเร็ว คาดต้องใช้เวลาในระยะหนึ่ง แต่เรายังแนะนำให้ติดตามการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน สำหรับโครงการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาลโดยจะแจกผู้มีรายได้ต่ำกว่า 7 หมื่นบาทหรือมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท ใช้จ่ายภายในอำเภอ ครอบคลุมผู้มีสิทธิ์ราว 50 ล้านราย โดยใช้งบประมาณราว 5 แสนล้านบาท แม้เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อย่างไรก็ดีการออก พ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงคาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “AWC”
ผลประกอบการ 3Q’66 ออกมา 1.13 พันล้านบาท ปรับตัวขึ้นแม้เป็นช่วง Low Season จากการเติบโตในทุกธุรกิจ ขณะที่เราคาดว่า 4Q’66 เข้าสู่ช่วง High Season คาดผลกำไรมีโอกาสเติบโตขึ้น ต่อเนื่องคาดจะหนุนทิศทางราคารีบาวด์ขึ้นได้
- ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบจำกัดอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับที่จุดต่ำสุดก่อนหน้าแล้วพยายามฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ยังให้สัญญาณซื้อ
- กลยุทธ์ แนะนำ “ย่อซื้อเล่นรอบ” เล่นรีบาวด์ แนวรับ 3.74 / 3.64 Target 4.20 / 4.44 Stop <3.54