บล.ฟิลลิป:

STEC ปีหน้ามีงานรออยู่มาก

ซื้อ TP’67 : 12.50

แม้ว่าจะมีแรงกดดันระยะสั้น จากการรับรู้ขาดทุนในรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู รวมทั้งการต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมแซมโครงการบึงหนองบอนไปก่อน ทำให้คาดงวด 4Q66 กำไรจะไม่โดดเด่นนัก อย่างไรก็ตาม ในปี 67 ทางฝ่ายมองบริษัทมิงานประมูลใหม่รออยู่จำนวนมาก พร้อมการส่งผ่านต้นทุนค่าแรงที่จะสูงขึ้นไปยังสัญญาก่อสร้างใหม่ได้ในอนาคต ด้านราคาพื้นฐานลดสู่ 12.50 บาท แต่ยังมี Upside 34% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

  • คาดกำไร 4Q66 มองไม่สูงกว่างวด 3Q66: บริษัทมี Gross Margin เพิ่มขึ้นจากงวด 2Q66 ที่ 4.39% สู่ 4.69% ตามดัชนีวัสดุก่อสร้างที่ทยอยลดลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน เม.ย.66 ที่ 113.5 จุด สู่เดือน ต.ค. ที่ 112.7 จุด ทำให้ทางฝ่ายมอง Gross Margin งวด 4Q66 ของบริษัทเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 5% มากขึ้น ด้านการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะยังมีต่อไปในงวดนี้ และยังต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากสายสีชมพูเพิ่มเข้ามาเป็นงวดแรก ส่วนโครงการบึงหนองบอนที่ซ่อมแซม แม้เบิกกับทางประกันภัยได้ แต่บริษัทต้องสำรองจ่ายไปก่อน ทางฝ่ายจึงคาดลดกำไรงวดปี 66 จาก 683 ลบ. (-20%y-y) สู่ 562 ลบ. (-34%y-y)
  • ปีหน้ามองฟื้นตัวจากงานประมูลจำนวนมาก และฐานกำไรที่ต่ำ: ทางฝ่ายคาดปี 67 จะได้ประโยชน์จากงานประมูลที่รออยู่มาก เช่น มอเตอร์เวย์ M5, M7 และ M9 ทางด่วน N2, งานรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล, สายสีสีส้มส่วนต่อขยาย, สายสีแดงเข้ม-แดงอ่อน และโครงการรถไฟทางคู่ ทำให้ทางฝ่ายคาดรายได้รวมปี 2567 ที่ 3.14 หมื่นลบ. (+9%y-y) ด้าน Gross Margin ทางฝ่ายมองจะปรับตัวดีขึ้น จากคาดเฉลี่ยปี 66ที่ 5.00% สู่ 5.20% จากงานใหม่ในมือที่จะมาพร้อมการรับรู้ต้นทุนค่าแรงที่จะสูงขึ้นไปแล้ว สำหรับกำไรปี 67 ทางฝ่ายคาดไว้ที่ 657 ลบ. (+17%y-y) โดยลดลงจากประมาณการณ์ครั้งก่อนจากการรับรู้ขาดทุนในรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู สำหรับราคาพื้นฐานทางฝ่ายลดค่า P/BV ที่เหมาะสมลงจาก 1.06X สู่ 0.96X ตามสภาวะตลาดที่ลดลง จึงลดราคาเป้าหมายปี 67 สู่ 12.50 บาท

 

- Advertisement -