บล.ฟิลลิป:
SC : อาจเห็นกำไรปี 66 และ 67 อ่อนตัวตามลำดับ (ที่มา: Analyst meeting 23.11.23)
- 9M66 ทำยอดขาย 20,681 ลบ. เติบโต y-y แบ่งเป็นคอนโดเติบโต y-y แนวราบลดลง y-y รายได้รวม 15,821 ลบ. +10.4%y-y กำไรสุทธิ 1,631 ลบ. +0.6%y-y มี D/E ที่ 1.79 เท่า สูงขึ้นเนื่องด้วยปีนี้เป็นช่วงที่เริ่มขยายการลงทุนในโรงแรมและคลังสินค้า
- 4Q66 เปิดตัว 5 โครงการ มูลค่า 36,600 ลบ. มี คอนโด COBE-เกษตรศรีปทุม ขายได้แล้วกว่า 72% คาด Presale ไตรมาสนี้อ่อนตัว q-q ตามมูลค่าโครงการที่เปิดลดลงกว่าไตรมาสก่อน แต่คาดรายได้โอนเพิ่มขึ้น q-q จากทยอยเร่งโอน Backlog ที่มีอยู่เยอะ GPM ลดลง q-q จาก Scope-หลังสวน ที่มี GPM ต่ำกว่าแนวราบโอนเข้ามาเยอะในไตรมาสนี้ คาดกำไร เติบโต q-q แต่อ่อนตัว y-y ทำให้รวมกำไรสุทธิทั้งปี 66 อ่อนตัวราว 6-7%y-y
- ภาพการขายอสังหาฯของ SC ระดับการจ่ายซื้อเงินสดไม่ได้ลดลง และ rejected rate ที่ 18% ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่ 20% แสดงถึงลูกค้ายังมีกำลังซื้อ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจทำให้ขาดความเชื่อมั่น ปัจจุบันรัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม มองปี 67 สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น ปี 67
- SC เน้นขยายการลงทุนใน Engine 2 ส่วนการเปิดโครงการอสังหาฯในปี 67 อาจลดลง y-y เพื่อดำรงส่วนของหนี้สินและสภาพคล่อง รายได้ส่วนของ Engine 2 จะเติบโตได้เร็วทำให้ระดับ D/E ลดลงได้
- โครงการอสังหาฯที่จะเปิดในปี 67 เป็นบ้านระดับ 10 ลบ. ขึ้นไปเป็นหลัก เพื่อเพิ่มสต๊อกของตนเองที่มีสัดส่วนน้อยลงเนื่องจากปี 66 เปิดโครงการบ้านระดับราคามากกว่า 20 ลบ. ถึง 50% ของโครงการทั้งหมด และต้องการเปิดตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทางฝ่ายฯคาดกำไรปี 67 ลดลง y-y จากการเปิดโครงการอสังหาฯที่ลดลง และคอนโดครบกำหนดโอนอยู่ในช่วงปลายปี ซึ่งต่างจากปี 66 ที่มีคอนโดทยอยโอนได้ทั้งปีอย่าง Scope-หลังสวน และ Scope-พร้อมศรี ซึ่งอาจเห็นราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวโดดเด่น แต่ภาพกิจการมีการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นและจะเติบโตในปี 68 จากคอนโดที่จะครบกำหนดปลายปี 67 และสามารถโอนได้ต่อเนื่องในปี 68
- ปรับลดราคาพื้นฐานปี 67 ลงที่ 3.84 บาท ปรับคำแนะนำลงเป็น “ทยอยซื้อ”