วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,400 / 1,390 แนวต้าน 1,405 / 1,410
ตลาดคาดปัจจัยชี้นำจากตลาดต่างประเทศ ขณะที่เราคาดว่าความกังวลเกี่ยวเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในช่วงปีหน้ายังจำกัด Upside ของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ พร้อมด้วยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. เช้านี้ยังอ่อนตัวลงต่อกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปริมาณการซื้อขายเบาบาง อาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้
Our View? “ไร้จุดดหมาย”
คาดตลาดวันนี้ ‘Sideways” ของแนวรับที่บริเวณ 1,400 / 1,390 และแนวต้านที่บริเวณ 1,410 / 1,415 เรามองวันนี้ตลาดคาด Sentiment ชี้นำจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ในคืนนี้ตลาดสหรัฐจะเปิดทำการแค่เพียงครึ่งวัน อย่างไรก็ตามเรามองตลาดรับรู้เกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปในระดับหนึ่งแล้ว หลังตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงเดือน ต.ค. ชะลอตัวลงต่อเนื่อง พร้อมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงในช่วงเดือน พ.ย. เราประเมินว่าตลาดจะคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อในช่วงเดือน พ.ย. ยังมีโอกาสชะลอตัวลงได้ต่อ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตัวเลขอื่นๆ อาทิยอดค้าปลีกและคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐที่อ่อนตัวลงคาดจะกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสถดถอยได้ในช่วงปีหน้าคาดจะจำกัด Upside ของตลาดได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ม.ค. เช้านี้ยังชะลอกำลังอยู่แกว่งตัวผันผวนออกด้านข้างอิงทางลง คาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เลื่อนการประชุมการกำหนดนโยบายกำลังการผลิตของกลุ่มออกไป โดยไม่ระบุเหตุผล สะท้อนถึงความไม่แน่นอนถึงนโยบายของกลุ่ม OPEC คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้บ้าง
สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุน ขณะที่ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยยังเบาบางต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทยที่ลดลง แม้ ตลท. ส่งสัญญาณคุมเข้มการ Short Sell และ Program Trading คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ดีเรายังมีมุมมองเชิงบวก ต่อการจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้ วงเงินซื้อไม่เกิน 1 แสนบาท กำหนดระยะเวลาลงทุน 8 ปีเต็มมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Big-Mid Cap ที่มี ESG Rating ระดับ AAA 34 บริษัท อาทิ ADVANC, CPALL, CPAXT, CRC, KBANK, OR, PTT, PTTEP, PTTGC, SCC, SCGP ฯลฯ ได้ในระยะสั้น แต่เราไม่คาดว่าเม็ดเงินจากการลงทุนใน TESG จะเข้ามาเร็ว คาดต้องใช้เวลาในระยะหนึ่ง แต่เรายังแนะนำให้ติดตามการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน สำหรับโครงการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาล โดยจะแจกผู้มีรายได้ต่ำกว่า 7 หมื่นบาทหรือมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท ใช้จ่ายภายในอำเภอ ครอบคลุมผู้มีสิทธิ์ราว 50 ล้านราย โดยใช้งบประมาณราว 5 แสนล้านบาท แม้เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อย่างไรก็ดีการออก พ.ร.บ. ดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ต่อ
ขณะที่สัปดาห์หน้าเราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-น้ำเข้าเดือน ต.ค. คาดจะออกมาฟื้นตัวขึ้นที่ระดับ 9.0%YoY และ 6.0%YoY ตามลำดับ คาดจากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าที่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวขึ้นได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “ROJNA”
- ผลประกอบการ 3Q’66 ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แม้รายได้จากการขายไฟฟ้าจะลดลง แต่รายได้จากธุรกิจนิคม (ขายอสังหาริมทรัพย์) เติบโตโดดเด่นตามที่เราคาดไว้ คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ
- ทางเทคนิค ราคาสามารถยืนเหนือ EMA10 วันได้ต่อเนื่อง พยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่จุดสูงสุดก่อนหน้า พร้อมเครื่องมือ MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นได้ต่อ
- แนะนำ “ซื้อสะสม” แนวรับ 5.85 / 5.65 Target 6.20 / 7.00 Stop <5.50