บล.บัวหลวง: 

Healthcare – Management guidance ของกลุ่มโรงพยาบาล (NEUTRAL)

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกลุ่มโรงพยาบาลในระยะยาว และในระยะสั้น ปัจจัยกระตุ้นของบริษัทจะมีบทบาทในไตรมาส 4/66 โดย BDMS และ BCH จะปรับตัวโดดเด่น เมื่อมองไปข้างหน้า ผู้ป่วยจากประเทศ CLMV จีน และตะวันออกกลางจะหนุนการเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาว

แนวโน้มไตรมาส 4/66 ที่น่าจับตามอง; หุ้นตัวไหนจะปรับตัวโดดเด่น?

ไตรมาส 4/66 และปีหน้า เรามองว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะเป็นภาพที่ค่อนข้างคละกัน เราแนะนำเลือกซื้อ BDMS แต่ถือสำหรับ BH เนื่องจากตลาดฝั่งตะวันออกกลางจะลดลงตามปัจจัยฤดูกาลในไตรมาส 4/66 ผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลางคิดเป็น 25-30% ของรายได้สูงสุดของ BH (เพียง 3-5% ของ BDMS) และเนื่องจากธุรกิจในฝั่งตะวันออกกลางส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้ป่วยหนัก ที่ให้อัตรากำไรสูง ดังนั้น ช่วงโลว์ซีซั่นสำหรับผู้ป่วยฝั่งตะวันออกกลางจะกระทบผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 ของ BH มากกว่า BDMS

เราคาดการณ์เบื้องต้นว่ากำไรหลักปี 2567 ของกลุ่มโรงพยาบาลที่เราให้คำแนะนำจะอยู่ที่ 2.56 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY หนุนโดยโรงพยาบาล ทั้งหมด เราคาดกำไรหลักปี 2567 สำหรับ BCH ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY และ 1.2 พันล้านบาทสำหรับ CHG เพิ่มขึ้น 11% YoY

ผู้บริหาร BDMS คาดแนวโน้มผู้ป่วยชาวไทยแข็งแกร่ง

BDMS ปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้โรงพยาบาลในปี 2566 เป็น 9%-10% YoY เพิ่มขึ้นจาก 6%-8% YoY ปัจจุบัน Movenpick Wellness Resort ที่เปิดให้บริการ มีอัตราการจองสูงถึง 60% รายได้จากลูกค้า ต่างประเทศคิดเป็นประมาณ 40% BDMS วางแผนที่จะขยายพอร์ตผู้ป่วยประกันสังคม โดยผู้ป่วยประกันสังคมระดับพรีเมียม (ประกันสังคมแบบชำระเงินร่วมและการประกันภัย/ประกันภัยองค์กร) ซึ่งโดยปกติจะให้รายได้ต่อบิล สูงกว่า โดยบริษัทจะเปิดโรงพยาบาลประกันสังคมอีก 3 แห่ง (BDMS ปลวกแดง ในปี 2566, BDMS ปากช่อง และบ่อวิ ในปี 2568) และตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกที่ลงทะเบียนเป็น 1 ล้านรายในปี 2568 ประกันสังคมคิดเป็นเพียง 2% ของรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทวางแผนขยายบริการเวชศาสตร์ป้องกัน: BDMS ตั้งเป้าที่จะขยายการบริการเวชศาสตร์ป้องกันซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 5-6% ของรายได้โรงพยาบาลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เพื่อเพิ่มรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศ โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยว (เชียงใหม่ ภูเก็ต) บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้ต่างประเทศเป็น 30% ของรายได้โรงพยาบาลจาก 27% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

ผู้บริหาร BCH คาดระยะการขยายตัวจะคุ้มค่า

ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายรายได้ปี 2566 ที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดที่ 1.18 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้เราคาดรายได้จะมากกว่า 3.3 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับ 3.2 พันล้านบาทในไตรมาส 3/66 และ 2.8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/65 ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตนี้ คาดว่าจะมาจากจำวนผู้ป่วยที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นจากการรักษาโรคเรื้อรังของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) อัตรากำไรในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากไม่มีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกีบในเวียงจันทน์ และการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากประกันสังคม ผลประกอบการของโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่งเริ่มดีขึ้น โดยผลประกอบการของโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (KIH อรัญประเทศ, KH ปราจีนบุรี และ KIH เวียงจันทน์) ปรับตัวดีขึ้น โดยมี EBITDA (ไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 20 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 (เทียบกับ 15 ล้านบาทในไตรมาส 2/66)

 

- Advertisement -