บล.ฟิลลิป

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ – ORI คาด 4Q66 กำไรยังอยู่ในระดับดี

Key Point

ระดับปกติ คาดส่วนแบ่งกำไรกลับมาเป็นบวกจาก 2 คอนโดที่มี Backlog เยอะ สามารถเร่งโอนได้ ช่วยให้มีสุทธิ ทรงตัว y-y และ q-q ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับสูง ภาพปี 67 เน้นธุรกิจ non-residential ส่วนการเปิโครงการใหม่ คาดเพิ่มขึ้น y-y เล็กน้อย ไม่ได้รุกตลาดมาก ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 12.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

3Q66 highlights

3Q66 highlights โครงการอสังหาฯ มีร่วมทุนเพิ่มอีก 12 โครงการ, มีคลังสินค้าเปิดดำเนินการรวม 2 แห่ง เป็นไปตามแผน, ซื้อโรงแรมเพิ่ม 2 โรงแรม รวม ONEO มี 7 โรงแรม, รายได้รวมเพิ่มขึ้น y-y และ q-q โดยหลักจากการขาย Biglots RealX token, GPM 23.6% ลดลง y-y และ q-q จาก 1. สัดส่วนโอนแนวราบเพิ่มขึ้น 2. Biglots realX token เป็นโครงการ Investment program ซึ่งมีการตัดค่าใช้จ่ายในการการันตีผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน

IBD/E สูงขึ้น หวังนำ ONEO เข้าตลาดฯ 

9M66 ยอดโอน 15,601 ลบ. คิดเป็น 88% ของเป้า ผู้บริหารคาดว่าทั้งปี 66 ทำยอดโอนได้ราว 22,000 ลบ. ต่ำกว่าเป้า 26% เนื่องจากมี Rejected rate ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากทำยอดโอนได้ตามนี้ ผู้บริหารคาดยังคงทำให้กำไรทั้งปี 66 เติบโตอย่างน้อย 5%y-y ปัจจุบันมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้มี IBD/E ที่ 1.45 เท่า แต่ยังน้อยกว่า Bond covenant ที่ 2.5 เท่า สภาพตลาดหุ้นยังไม่ดี ทำให้มีการเลื่อน IPO ของ ONEO ออกไปเป็น 1Q67 ซึ่งหลัง IPO จะทำให้สัดส่วนหนี้ดีขึ้น

คาด 4Q66 หากเร่งโอนได้ กำไรไม่แผ่ว

4Q66 เปิดตัว 12 โครงการ เป็นคอนโด 4 โครงการ 5,200 ลบ. แนวราบ 8 โครงการ 10,150 ลบ. รวมมูลค่า 15,350 ลบ. สูงที่สุดในปี และจะมีคอนโดครบกำหนดโอน 5 โครงการ (เป็น JV 2 โครงการ) คาดรายได้โอนอ่อนตัว q-q จากคอนโด Park Origin-ยาไท และ Park 24-เฟส2 ที่โอนได้เยอะใน 3Q66 แต่ยังเติบโต y-y ส่วนแนวราบจะโอนได้ทัน 4Q66 อยู่ 4 โครงการ, GPM อสังหาสูงขึ้น q-q กลับมาอยู่ในระดับปกติ และมี Park origin-ทองหล่อ (JV) และ Park origin-จุฬา 3 ย่าน (JV) ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มี Backlog รวมกว่า 3,296 ลบ. คาดว่าจะสามารถเร่งโอนได้ ทำให้ส่วนแบ่งกำไรกลับมาเป็นบวก ยังคงทำกำไรทรงตัว y-y และ q-q ที่ระดับ 1 พันลบ.

ภาพปี 67 เน้น non-residential

ภาพปี 67 เน้นรายได้จาก non-residential เพิ่มมากขึ้น คาดหวังกำไรเป็น 1 ใน 3 ของกำไรทั้งหมดจากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 20% ของกำไร ด้านธุรกิจอสังหาฯ มูลค่าการเปิดโครงการใหม่อาจเพิ่มขึ้นราว 10%y-y ไม่ได้รุกตลาดมาก แนวราบเน้นระดับราคาสูงเพิ่มขึ้น ส่วนคอนโดเน้นเซกเมนท์ระดับกลางทำเลติดรถไฟฟ้า และเมืองท่องเที่ยว เลี่ยงคอนโดระดับราคาสูง ภาพเปิดโครงการจะเป็น JV ราว 60%เพื่อลดการใช้เงินทุนซื้อที่ดิน เพิ่มสภาพคล่องไปลงทุนในธุรกิจ non-residential

ราคาพื้นฐาน 12.00 บาท/หุ้น อิงวิธี SOTP

ทางฝ่ฯ ประเมินราคาหุ้น โดยใช้วิธี SOTP ราคาพื้นฐานปี 67 อยู่ที่ 12.00 บาท/หุ้น ปัจจุบันราคาหุ้น
ต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ/อัตราการจ้างงาน/อัตราดอกเบี้ย
  2. ทำเลที่ตั้ง,ลักษณะโครงการ ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย
  3. ความเสียงจากนโยบายรัฐ/การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพื่ออยู่อาศัย

 

- Advertisement -