บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Srinanaporn Marketing (SNNP TB) ยังเดินหน้าเติบโตได้ดี

ลดประมาณการกำไร แต่คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” SNNP โดยปรับลดราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF เป็น 24 บาท (WACC 8.7%, G 3%) จากเดิม 27.50 บาท เราปรับประมาณการกำไรลงสะท้อนยอดขายในประเทศที่ชะลอ แต่ยอดขายในต่างประเทศคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้น ตัวของการบริโภคและโรงงานในเวียดนามที่เสร็จสมบูรณ์ เราคาดว่า SNNP จะมีกำไร 4Q66 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเติบโต 24%/21%, YoY ในปี 66/67 ขณะที่คะแนน ESG ของ SNNP มีแนวโน้มจะดีขึ้นได้หากเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

คาดกำไรเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 4Q66

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 66E/67 ลง 5%/4% เพื่อสะท้อนถึงยอดขายในประเทศที่ต่ำกว่าคาดจากการบริโภคที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดว่ากำไร 4Q66 จะเติบโต YoY และ QoQ จากไฮซีซันและการผลิตที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม โดยยอดขายในเวียดนามคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เนื่องจากเป็นช่วงพีซีชั่น นอกจากนี้ เรายังคาดว่ายอดขายในประเทศจะดีขึ้นใน 4Q66 ด้วยปัจจัยตามฤดูกาลและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ เบนตะ 2 รสชาติใหม่ และ Jele Chewy Jelly Ice

กำไรปี 67 โตแกร่ง หนุนโดยยอดขายในเวียดนาม

กำไรปี 67 คาดว่าจะเติบโต 21% YoY สู่ระดับ 777 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในประเทศที่เติบโตดีและยอดขายในต่างประเทศที่แข็งแกร่ง เราคาดว่ายอดขายในประเทศจะดีขึ้น 7% YoY เนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภค และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เราประเมินยอดขายในต่างประเทศเติบโต 18% YoY เป็น 1.92 พันล้านบาท หรือ 29% ของยอดขายรวม เรามองว่าการดำเนินงานในเวียดนามจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญโดยคาดการณ์ยอดขายไว้ที่ 1 พันล้านบาท (+28% YoY) หรือ 14.9% ของยอดขายรวมในปี 67 เทียบกับ 12.9% ในปี 66 อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะขยายตัว 54bps YoY เป็น 29.2% ในปี 67 เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศ ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าในประเทศ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่ต่ำกว่า

มีโอกาสในการเพิ่มคะแนน ESG ได้อีก

จากระบบการให้คะแนน ESG ของ Maybank SNNP ได้คะแนน 52 จากคะแนนเต็ม 100คะแนน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ Maybank ที่ 50 ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใต้ Scope 1 และ 2 ภายในปี 2575 โดยบริษัททำคะแนน ESG ได้ดีในเชิงคุณภาพ ขณะที่เชิงปริมาณก็ทำได้ดีในส่วนของกิจกรรมเพื่อสังคม (S) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือธรรมาภิบาล (G) ซึ่งครอบคลุมประเด็นเงินเดือนของ MD/CEO ค่าตอบแทนกรรมการ สัดส่วนกรรมการอิสระ และกรรมการที่เป็นสตรี ส่วนประเด็นที่ต้องปรับปรุง ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น รวมทั้งลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าและน้ำ

 

- Advertisement -