การส่งออกเห็นสัญญาณฟื้นตัว
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.16% นักลงทุนยัง Wait & See รอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.74% ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน นักลงทุนรอดูการประชุม OPEC+ ในวันพฤหัสบดี โดยตลาดคาดการณ์ว่าซาอุจะขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลจนถึงปีหน้า
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน ต.ค. ขยายตัว 8% YoY ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ แต่หากไม่รวมสินค้า เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ยุทธปัจจัย และทองคำจะขยายตัวเพียง 5.4%YOY โดยการ ส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มฟื้นตัวในหลายๆสินค้าสำคัญที่กลับมาเป็นบวกหรือหดตัวชะลอลง อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารสัตว์เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์ ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ทยอยฟื้นตัวในช่วงเทศกาลปลายปีและเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง ด้านมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 9%YoY โดยมีสินค้าที่ขยายตัวได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง (+44%YoY) อาหารสุนัขและแมว (+5.5%YoY) อย่างไรก็ตาม สินค้าที่หดตัว ได้แก่ ยางพารา (-5.4%YoY) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (+5.6%YoY) สำหรับมูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (+5.4%YoY) ซึ่งมีสินค้าที่ขยายตัวได้แก่รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+9%YoY) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+15%YoY) โดยสินค้าหดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ (-4.2% YoY) มองหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ (AH SAT) อาหารสัตว์ (ITC TU) สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนรายงานยอดขายบ้านมือ 1 ที่ 6.79 แสน หลังคาเรือนแย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 7.24 แสนหลังคาเรือน สะท้อนการอ่อนแรงของสหรัฐฯที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น คืนนี้รอติดตามความเชื่อมั่น ผู้บริโภคสหรัฐฯจาก CB Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 101 หากต่ำกว่าคาด มองเป็นบวกกับตลาดหุ้น ความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ให้นํ้าหนัก 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ประเมิน SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1385 – 1400 ยังไร้ปัจจัยใหม่ที่มีนัยยะสำคัญ ขณะที่ตลาดหุ้น Nikkei เช้านี้ก็ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ (-0.08%) เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองดัชนีระดับปัจจุบัน เหมาะสำหรับการทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะกลางขึ้นไปจาก Valuation ที่ไม่แพง แต่เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) สื่อสาร (ADVANC) ศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU)
หุ้นแนะนำชื่อวันนี้
ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.80 บาท) ITC รายงานผลประกอบการงวด 3Q23 เติบโตจาก 2Q23 ตามคาด โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 645 ล้านบาท ดีกว่าที่เราประเมินไว้ที่ระดับ 500 ล้านบาท แต่หากเทียบกับปีก่อนยังคงลดลงเพราะฐานที่สูง แนวโน้ม 4Q23 คาดว่าจะเป็นช่วงที่สูงสุดของปี หลังจากปัญหา การสต๊อกสินค้าของคู่ค้าเริ่มเข้าสู่ระดับปกติแล้ว และผลดีจาก การขายสินค้าใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในช่วงดังกล่าว
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.70 บาท) TU รายงานทําไรจวด 3Q23 ที่ 1,206 ล้านบาท ดีกว่าที่เราคาดไว้ 15% เกิดจากค่าไรขั้นต้นที่สูงถึง 18.4% เกิดจากผลดีจากการปรับปรุงสินค้าในกลุ่มอาหารแช่แข็งที่ได้ผลดี รวมกับต้นทุนสินค้าที่เริ่มเห็นการอ่อนตัวลง แม้ว่า Red Lobster จะมีผลประกอบการที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นก็ตาม สําหรับแนวโน้มช่วง 4Q23 คาดว่ากำไรสุทธิมีโอกาสจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นได้อีก จากผลดีของต้นทุนที่ลดลงหลังราคาปลาทูน่าปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง