บล.บัวหลวง:
NOBLE Development (NOBLE TB / NOBLE.BK)
NOBLE – การขายเงินลงทุน กระตุ้นภาพกำไรระยะสั้น แต่ภาพปีหน้าจะยังคงมีแรงกดดันมากมาย
แนวโน้มการเติบโตของ NOBLE ใน 4Q66 จะได้รับแรงกกดดันจากยอด presales และ transfer ที่ต้องพึ่งพิงชาวต่างชาติ และ ใน 3Q66 มีการขายเงินลงทุน ทำให้กำไรเติบโตโดดเด่น เรามองว่า 4Q66 จะมีความเสี่ยงที่เห็นกำไรสุทธิปรับตัวลดลง QoQ นอกจากนี้ปี 2567 ตลาดคาดกำไรสุทธิจะปรับตัวลดลง การขายเงินลงทุนเป็นเพียงปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2566 ดีขึ้น YoY และ QoQ จากการขายเงินลงทุน
NOBLE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289% YoY และ 378% QoQ สาเหตุหลักมาจาก 1.) รายได้จากค่าเช่าและบริการที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการที่ NOBLE ดำเนินโครงการร่วมทุนขนาดใหญ่ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งทั้งสอง โครงการมีมูลค่าการก่อสร้างสูง ทำให้ NOBLE ได้รับค่าธรรมเนียมบริหารงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2.) รายได้จากธุรกิจใหม่ เกิดจากการที่ NOBLE ได้เริ่มดำเนินธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการหลังการขาย ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการหลังการขายภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 ที่ผ่านมา 3.) รายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นจากการขายเงินลงทุนใน 2 โครงการร่วมทุน ได้แก่ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้แก่บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “พราว” เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
Backlog ที่จะรอรับรู้ จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า, No short-term catalysts
บริษัทฯ ยังมีรายได้ที่รอรับรู้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 จำนวน 17,884.8 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน) ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 2 ปีข้างหน้า สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการนิว คอร์ คูคต สเตชัน, โครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์, โครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ, โครงการ โนเบิล เทอร์เรส พระราม 9 – เอกมัย, โครงการโนเบิล เอควารา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ ดังนั้นเรามองว่าในภาพระยะสั้น NOBLE จะยังคงไม่มี catalyst เชิงบวก
ตลาดคาดการณ์กำไรปี 2567 ทรงตัว YoY แบบไม่น่าตื่นเต้น
ตลาดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024 ที่ 789 ล้านบาท (EPS ที่ 0.58 บาท) (ลดลง 6% YoY) เนื่องจากปี 2566 มีการขายเงินลงทุนในไตรมาส 3 ทำให้กำไรสุทธิมีการปรับตัวขึ้นมาสูง แต่ภาพปีหน้าจะมีแรงกกดดันจากภาพตลาดอสังหาฯ โดยรวม รวมถึงความท้าทายท่ามกลางการฟื้นตัวของผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ช้ากว่าที่คาด
Bloomberg Consensus: ตลาดมองราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5.38 บาท (ช่วง 4.70-6.05 บาท) และให้คำแนะนำซื้อ 1 ราย และ ถือ 1 ราย
Technical view: โครงสร้างราคาหุ้น sideway up แนวรับ 4.00-4.10 แนวต้าน 4.30-4.40 (ตัดขาดทุน 3.80)