บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 29/11/66

Selective Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ขึ้นได้ตามที่ประเมิน ปิดบวก 8 จุด ณ สิ้นวัน ได้แรงหนุนจาก Bond Yield ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โรงไฟฟ้า ไฟแนนซ์ซึ่งได้อานิสงส์บวกปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTTEP AOT CPAXT ปรับตัวลงถ่วงดัชนี สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 111 ลบ.และ 773 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Long Index Futures หนาแน่น 2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวบวกได้ต่อเนื่องในกรอบ 1,400-1,420 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสต่อเนื่อง หลังนายวอลเลอร์ ผู้ว่าการณ์ FED ให้มุมมองว่ามั่นใจมากขึ้นต่อนโยบายการเงินของ FED ณ ปัจจุบันที่น่าจะตึงตัวเพียงพอในการดึงเงินเฟ้อให้ทยอยกลับลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% ได้ ส่งผลให้ Bond Yield ปรับตัวลงต่อเนื่องทั้งระยะสั้นและยาว

ล่าสุดส่วนต่างของ Bond Yield 10 ปีและ 2 ปีของสหรัฐฯทยอยติดลบแคบลงเหลือ -0.41% Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่อง และทำให้ค่าเงินบาทล่าสุดแข็งค่าเร็วแตะระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะทยอยเร่งตัวขึ้นใน 4Q23-2024 คาดเป็นปัจจัยหนุนให้กระแสเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มทยอยพลิกกลับมาไหลเข้าได้อีกครั้ง

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือการประชุมกนง. ซึ่งคาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% แต่ที่ต้องจับตาคือการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2024 ว่าจะลงจากปัจจุบันที่ +4.4% หรือไม่และมากน้อยเพียงใด เรายังคงมุมมองว่า SET Index ที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด จะเริ่มมี Downside ที่จำกัดมากขึ้นหลังดัชนีที่ปรับฐานลงราว -10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและ -16% YTD สะท้อนปัจจัยลบกำไรบจ.ที่ถูกปรับลงและ De-rated Valuation ไปแล้วค่อนข้างมาก ยังมองจังหวะพักตัวลงเป็นโอกาสทยอยสะสมเพื่อถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2024 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid // รอจังหวะสะสมเพิ่มหากดัชนีปรับลงหากรอบล่างในกรณีแย่ของเราที่ 1,300-1,350+- จุด

หุ้นเด่นเดือน พ.ย.: AOT, BH, CENTEL, CPN, SISB
หุ้นเด่นวันนี้ : GPSC
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 59 บาท
• ระยะสั้นแนวโน้มกำไร 4Q23 คาดอ่อนตัวลง q-q ตามการปรับลดค่า Ft ลงเหลือ 3.99 บาท/หน่วย ภาพเราเชื่อว่าทิศทางค่าไฟในปี 2024 จะดีขึ้นโดยให้รอติดตามกกพ.เคาะราคาค่าไฟงวดที่ 1 (ม.ค.-เม.ย. 24) เร็วๆนี้
• บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนขายไฟให้อิงกับราคาก๊าซแก่ลูกค้า IU เพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 25% ในปี 2024 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของค่า Ft ส่วนการเติบโตด้านพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศยังเป็นอีกปัจจัยหนุนการเติบโตทั้งอินเดีย ไต้หวัน เป็นต้น เราคาดกำไรปี 2023-24 +39% y-y และ +28% y-y ตามลำดับ
• แนวรับ 44.50//43.25 บาท แนวต้าน 48-48.50//51 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคและหนาแน่นขึ้นเป็น US$834 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$749 ล้าน รองลงมาคือไต้หวัน US$57 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลเข้านำโดยไทย US$22 ล้าน แต่พลิกไหลออกจากอินโดนีเซีย US$9 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ไหนทิศทางไหลเข้าหลัง Bond Yield สหรัฐฯปรับตัวลงต่อเนื่องหลังผู้ว่าการณ์ FED ให้มุมมองว่าดอกเบี้ย FED ปัจจุบันน่าจะตึงตัวมากพอที่จะดึงเงินเฟ้อลงสู่กรอบเป้าหมาย 2%

ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) จับตากนง. ประชุมวันนี้ ตลาดคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% และเราเชื่อว่าจะคงต่อเนื่องไปถึงช่วง 1H24 เป็นอย่างน้อย แม้อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันจะอยู่ในระดับต่ำ แต่เราเชื่อว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ราคาค่าไฟและเนื้อสัตว์ที่มีแนวโน้มขยับขึ้น และการแจกเงินดิจิทัล คาดว่าจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ซึ่งต้องติดตามตัวเลขใน 2H24 ก่อนประเมินทิศทางแนวโน้มดอกเบี้ยอีกครั้ง ส่วนวันนี้ต้องติดตามว่าจะมีการปรับประมาณการ GDP ลงมากน้อยเพียงใดจากปัจจุบันที่คาดปี 2024 เติบโต +4.4% y-y จาก GDP ปี 2023 ที่ต่ำกว่าคาดและความไม่แน่นอนของนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

(-) CPAXT ประเด็นจากข่าว DSI ขอเอกสารการซื้อเนื้อหมูและเครื่องในหมู หลังพบบริษัทคู่ค้าเป็นผู้ต้องหาในคดีหมูเถื่อนบริษัทชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นในข่าวว่าบริษัททำตามกฎหมายเกี่ยวกับการรับซื้อเนื้อหมูและเครื่องใน บริษัทยืนยันว่าได้รับซื้อเนื้อหมูจากแหล่งผลิตในประเทศทั้งหมดที่ระบุชัดเจน และมีใบรับรองถูกต้องจากกรมปศุสัตว์ทุกล็อต ขณะที่เครื่องในหมู โดยเฉพาะตับหมู ตามกฎหมายอนุญาตให้สามารถนำเข้าได้ โดยบริษัทมีการตรวจสอบเอกสารของคู่ค้า รวมถึงประเทศที่ทางกรมปศุสัตว์อนุญาตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้าน DSI ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบริษัทกระทำความผิด ซึ่งคาดว่าจะได้รับเอกสารภายใน 1 เดือน เราเชื่อว่าเป็น Sentiment เชิงลบในระยะสั้น จนกว่า DSI จะมีความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว

(0) ZEN ธุรกิจร้านอาหารไม่ตื่นเต้น กำลังซื้อไม่คึกคัก ทำให้ SSSG ต.ค.- พ.ย. flat y-y ภาพรวม traffic ไม่ตื่นเต้นทั้งที่เป็น High season ทั้งปี 2023 SSSG อาจทำได้ 2% ต่ำกว่าเป้าที่ 5% สิ่งที่ดีคือต้นทุนปรับลง แนวโน้มธุรกิจ Retail ดูสดใส โดยเฉพาะ King Marine ที่ล่าสุดได้ลูกค้าใหม่ Go Wholesale คาดจะทยอยรับรู้รายได้มากขึ้นตามการเปิดสาขาของ Go Wholesale ซึ่งมีแผนเปิดปีนี้ 4 สาขา และปีหน้า 11 สาขา แต่ธุรกิจ Retail มีมาร์จิ้นที่ต่ำกว่าร้านอาหาร จึงคาดอัตรากำไรขั้นต้นรวมจะปรับลดลง แต่กำไรที่เป็นตัวเงินควรปรับขึ้น ยังคาดหวังกำไรจะเติบโตได้ดีมากขึ้นในปี 2024 +16% y-y คงราคาเป้าหมาย 15.5 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) AH อุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้อ่อนแอจากกำลังซื้อที่ชะลอ ปีหน้ามีความท้าทายจากตลาดยุโรปที่แผ่ว แต่ AH แข็งแกร่งกว่าอุตสาหกรรม ผบห.ตั้งเป้ารายได้ปี 2023 โต 10-15% แต่แนวโน้ม 4Q23 ที่ลดลง q-q ทำให้เราคาดรายได้ปีนี้จบที่ +8% y-y กำไรปกติ +5% y-y โดยที่กำไรปกติ 9M23 ทำได้ 76% ของคาดการณ์ทั้งปี แนวโน้มปี 2024 ดีขึ้นจากคำสั่งซื้อชิ้นส่วน EV จาก VinFast และค่ายจีน และรับรู้รายได้จาก JV Purem ผลิตระบบควบคุมไอเสียของรถ ซึ่งมี รง ในไทยและมาเลเซีย เราคาดกำไรปกติ +8% y-y คงราคาเป้าหมาย 45 บาท แนะนำซื้อเพราะ PE ถูก 5 เท่า

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 83.51 จุด หรือ +0.24% ปิดที่ 35,416.98 จุด ขานรับการแสดงความเห็นเชิงบวกของเจ้าหน้าที่เฟด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังจากการแสดงความเห็นของผู้กำหนดนโยบาย ECB ลดถอนความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
(0) ตลาดหุ้นเอเชียเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดคาดว่าจะได้แรงหนุนจากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อวานนี้
(-) ค่าเงินบาทแข็งค่าแรง อยู่ที่บริเวณ 34.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.86%
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 76.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข่าวคาซัคสถานผลิตน้ำมันลดลงเนื่องจากพายุพัดกระหน่ำ ในขณะที่เช้านี้บวกขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 76.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.68%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 27.20 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 2,060.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 2,071.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.54
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 880.55/ -0.19%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 พ.ย. ไทย: ปรุะชุม กนง.
สหรัฐ: 3Q23 GDP growth (ปรับปรุงรอบ 2)
30 พ.ย. โอเปก: ประชุม OPEC+
ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (พ.ย.)
สหรัฐ: PCE Price index (ต.ค)
MSCI rebalance
1 ธ.ค. จีน: Caixin Manufacturing PMI (ต.ค)
สหรัฐ: ISM Manufacturing PMI (พ.ย.)
5 ธ.ค. สหรัฐ: ISM Services PMI (พ.ย.)

- Advertisement -