ประชุม กนง. ปรับการเติบโตเศรษฐกิจไทยลง

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว (+0.04%) ความเห็นที่ต่างกันของ คณะกรรมการ FED ส่งผลให้ตลาดเกิดความสับสนกับการใช้นโยบายการเงิน ด้าน ราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.74% นักลงทุนคาดหวังถึงการประชุม OPEC+ จะมีการปรับลดกำลังการผลิตที่มากขึ้น

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมาที่ประชุม กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม คณะกรรมการประเมินว่าในภาพรวมเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีตามการใช้จ่ายในหมวดบริการรวมทั้งแรงสนับสนุนจากการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ปรับดีขึ้น ขณะที่ภาคส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวพื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ ส่วนนึงจากเศรษฐกิจจีนและวัฏจักร Global Electronics ที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่เมื่อพิจารณาไปข้างหน้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวสมดุลมากขึ้นภายใต้บริบทการท่องเที่ยว การส่งออกขยายตัว อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากปัจจัยโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคาดการณ์ GDP 2Q23 ไว้ที่ 2.4% YoY และปี 2024 3.2% YoY กรณีไม่รวม Digital Wallet แต่หากรวม Digital Wallet จะขยายตัวได้ 3.8% YoY ลดลงจากประมาณครั้งก่อน 4.4%YoY อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมายและคาดว่าจะอยู่ในระดับ 1.3 สำหรับปี 2023 และปี 2024 อยู่ที่ 2% แต่หากรวมผลกระทบจาก Digital Wallet คาดเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.2% จากข้อมูลข้างต้นมองกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ยังเป็นกลุ่มหลักที่ได้ประโยชน์จาก โครงการ Digital Wallet สำหรับสหรัฐฯเมื่อคืนรายงาน GDP 3Q23 ครั้งสุดท้าย พบว่าขยายตัว 5.2%QoQ ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 5%QoQ โดย การบริโภคขยายตัว 3.6%QoQ แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 4%QoQ การบริโภคสินค้าคงทนขยายตัว 6.8%QoQ ดีขึ้น 2Q23 ที่ -0.3%QoQ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 10.5%QoQ ดีขึ้นจาก 2Q23 ที่ 5.2%QoQ ได้แรงหนุนหลักจากการลงทุนในที่อยู่อาศัยที่ขยายตัว 6.2%QoQ ดีขึ้นจาก 2Q23 ที่ 2.2%QoQ หลังจากพบข้อมูลทั้งหมด US Bond Yield ปรับลงทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 พร้อมกับ CME FED Watch ให้นํ้าหนัก 97% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมใน การประชุมเดือน ธ.ค. แต่เริ่มปรับโอกาสลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นมาอยู่ที่เดือน มี.ค. 24 จากเดิมช่วงเดือน ก.ค. 24 วันนี้รอติดตาม (1) PMI ของจีนที่จะประกาศช่วง 8.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดไว้ที่ 49.8 (2) ประชุม OPEC+ คืนนี้ และ US PCE Bloomberg คาดไว้ที่ 3%YOY คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1380 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองระดับดัชนีปัจจุบันเป็นโอกาสสะสมเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคาร พาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ส่งออก (TU) Trading ระยะสั้นแนะนํ้ามัน PTTEP

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรของ PTTEP ในไตรมาส 4/23 และปี 2024 ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ย ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YOY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFD EIA ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะยังยืนในกรอบสูงช่วงไตรมาส 4/2 ถึงปี 2024 จากสภาวะอุปทานที่ ดึงตัวหลัง OPEC+ ลดการผลิตลง ซึ่งอาจลดต่อเนื่องในปีหน้า

AH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 46.00 บาท) ยังคงมีมุมมองเดิมที่ว่า AH เป็นผู้ประกอบการที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการได้รับงานชิ้นส่วนรถยนต์ EV มาก ที่สุด โดยก่อนหน้านี้มีคำสั่งซื้อมาจากทาง Vinfast ตั้งแต่ปลายปี 22 ที่ผ่านมา ล่าสุดเตรียมรับงานประกอบ ชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิต EV ที่มาตั้งโรงงานในไทย รวมถึงยังมีงานที่อยู่ระหว่างเสนอราคาอีกด้วย ขณะที่ผล ประกอบการงวด 3Q23 ยังคงออกมาดี ทําไรปกติยังเติบโตได้ แม้ไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนไดเข้ามาแล้วก็

- Advertisement -