บล.ฟิลลิป:

พริมา มารีน – PRM

4Q66 คาดกำไรดีขึ้น q-q และมีกำไรพิเศษ

Key Point

4Q66 คาดกำไรจะดีขึ้น q-q จากขนส่งน้ำมันในประเทศที่ได้ผลดีจาก high season ของท่องเที่ยวและ FSU กลับมาทำงานครบ 5 ลำ จาก 3Q66 ที่ทำงาน 4 ลำ ใน 1Q67 จะได้ผลดีจากเรือใหม่ 4 ลำ และในปี 2567 เน้นการลงทุนในเรือขนส่งปิโตรเคมีจากการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นทั้งไทยและอาเซียน, และออฟซอร์ที่กิจกรรมการขุดเจาะปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 7.80 บาท

4Q66 คาดกำไรปกติดีขึ้น q-q และมีกำไรพิเศษขายเรือ

คาดใน 4Q66 กำไรฟื้นตัวจาก 3Q66 ที่มีกำไร 328 ล้านบาท จาก

  1. ธุรกิจขนส่งน้ำมัน 1.1) ขนส่งภายในประเทศ จะเป็นช่วง high season ของการขนส่งน้ำมัน โดยเฉพาะขนส่งน้ำมันเครื่องบิน ตามฤดูการท่องเที่ยว และเรือขนส่งปิโตรเคมีจะรับเรือเพิ่ม 1 ลำปลายธ.ค. อาจยังไม่ได้ส่งผลบวกมากนัก 1.2) ขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ เรือทั้ง 4 ลำทำงานปกติ และมีสัญญา Tine Charter ทุกลำ รายได้สม่ำเสมอและลดความผันผวนต้นทุนน้ำมัน เพราะผู้เช่าเป็นผู้จ่าย
  2. ธุรกิจ FSU ใน 3Q66 มีเรือ 1 ลำไปปรับปรุง และติดตั้งอุปกรณ์ไม่ได้ทำงาน อัตราการใช้เรือ (U Rate) ลดลงจาก 89% ใน 2Q66 เหลือ 52% เรือได้กลับเข้าทำงานกลางเดือน พ.ย. และได้ลูกค้ารายใหม่เป็น Major Oil เพื่อใช้เก็บน้ำมัน แทน Trader ที่เก็บน้ำมันเพื่อเก็งกำไร ทำให้ U Rate สม่ำเสมอมากขึ้น และ U Rate ใน 4Q66 เพิ่มขึ้น
  3. ธุรกิจออฟชอร์ จะทรงตัวเรือทั้ง 14 ลำทำงานปกติ และมีสัญญา Time Charter มีรายได้แน่นอนตามสัญญาเช่า
  4. ธุรกิจบริหารจัดการเรือ ยังมีเรือบริหารเท่าเดิม 3 ลำ และธุรกิจ Shipping/Ship Agent แนวโน้มดีขึ้นแต่สัดส่วนรายได้น้อยจึงไม่มีนัย

กำไรที่คาดฟื้นตัว q-q หลักๆ มาจากธุรกิจขนส่งน้ำมันในประเทศ และ FSU ที่เรือกลับมาทำงานครบ ทั้ง 5 ลำ จาก 3Q66 ที่ทำงาน 4 ลำ และ URate สูงขึ้น อีกทั้งจะมีกำไรขายเรือ 1 ลำ ซึ่งทางฝ่ายคาดกำไรที่ 220 ลบ. และเงินบาทแข็งค่าจากสิ้น 3Q66 ที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์ ปัจจุบันที่ 34.71 บาท/ดอลลาร์ จะมีบันทึกกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากหนี้สกุลดอลลาร์ที่สิ้น 3Q66 มี 16.7 ล้านดอลลาร์

1Q67 จะได้ผลบวกจากเรือใหม่ 4 ลำ และเรือที่รับระหว่างปี 2566

1Q67 จะได้ประโยชน์จากเรือเคมีภัณฑ์ขนาดราว 1.1 หมื่นเดทเวทตัน 2 ลำที่รับมาในช่วง 3Q66 และปลาย 4Q66 จะทำงานเต็มไตรมาส และมีรับเรือใหม่ 4 ลำ คือ เรือ AWB (โรงแรมลอยน้ำ) 1 ลำ เริ่มงาน 15 ม.ค. ได้สัญญางานจาก PTTEP เป็นเวลา 2 ปี ทำให้มีเรือ AWB เป็น 2 ลำ และ Crew Boat จำนวน 2 ลำ รับ ม.ค. และ มี.ค. จะนำมาให้บริการในอาเซียน จะมี Crew Boat เพิ่มเป็น 15 ลำ รวมถึงเรือขนส่งน้ำมันใสขนาด 5 ล้านลิตรที่จะรับในช่วง ก.พ.-มี.ค. เพื่อแทนเรือที่จะปลดระหว่างในปี 2568แต่ก็จะมีเรือใหญ่ VLCC (ขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ) ที่จะเข้าอู่ซ่อมบำรุงในช่วง มี.ค.-เม.ย. ราว 30-45 วัน คาดกำไรปกติจะดีขึ้น q-q และ y-y ตามจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น

ปี 2567 ยังเน้นขยายกลุ่มเรือเคมีภัณฑ์และธุรกิจออฟซอร์

ปี 2567 เน้น 1) กลุ่มเรือเคมีภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการซื้อเรือมือสองมาให้บริการ เพราะเรือต่อใหม่จะใช้เวลาในการส่งมอบ 2-3 ปีไม่ทันกับความต้องการในตลาด โดยจะเน้นการให้บริการในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านที่มีการขยายกำลังการผลิตปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เช่น ปีโตนาของมาเลเซีย ที่ PRM มีเรือขนส่งเคมีภัณฑ์ทำงานกับปิโตรนาส 5 ลำ คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างเจรจาที่จะให้ PRM ลงทุนต่อเรือใหม่ โดยที่ปิโตรนาสจะให้สัญญาเช่าระยะยาว และ 2) กลุ่มออฟชอร์ ซึ่งมีความต้องการสูงตามกิจกรรมการขุดเจาะสำรวจที่เพิ่มขึ้นและมีเรือหลากหลายที่จะให้บริการ ตอนนี้ PRM มีเรือ AWB และ Crew Boat แล้ว กำลังศึกษาการลงทุนในเรือขนส่งและ จัดเก็บน้ำมันดิบสำหรับแท่นขุดเจาะน้ำมัน (FSO) และเรือลาก-จูง (Anchor handling tug) ซึ่ง PRM เคยให้บริการ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว และเรือสนับสนุนประเภทอื่น ๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตดีในปี 2567 ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ยังคง maintain ไว้ ถ้ามีโอกาสทางธุรกิจหรือได้พาร์เนอร์เข้ามาก็พร้อมที่จะลงทุนเพิ่ม

ปรับประมาณการกำไรลง แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 7.80 บาท

ทางฝ่ายได้มีการปรับคาดการณ์กำไรลงจากเรือที่รับช้ากว่าที่คาด โดยในปี 2566 คาดกำไรที่ 2,006 ล้านบาท (กำไรไม่รวมขายเรือ 1,806 ล้านบาท) และปี 2567 ปรับกำไรเป็น 1,957 ล้านบาท เนื่องจาก มีเรือเข้าอู่ซ่อมบำรุงมากกว่าที่คาด โดยจะมีเข้าอู่ทั้งหมด 27 ลำ จากปี 2566 ที่มีเข้าอู่ 17 ลำ ซึ่งมีเรือขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วย ยังคงอิง PE ที่ 10 เท่า (3 ปีย้อนหลังที่ 11.4 เท่า) ที่ 7.80 บาท ราคาปัจจุบัน ซื้อขาย P/E ที่ 6.5 เท่า ราคาหุ้นยังมีส่วนต่างอยู่มาก ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานของตลาดการขนส่งที่รวดเร็วและรุนแรง
  2. เปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
  3. กฎหมายสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทางทะเล
- Advertisement -