บล.ฟิลลิป:

โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ – TTA

4Q66 กำไรจะดีขึ้น q-q และดีกว่าที่เคยคาไว้

Key Point

4Q66 แนวโน้มการดำเนินงานปกติดีกว่าที่เคยคาดไว้ หลังจากดัชนี BSI กลับมาฟื้นตัว ซึ่งภาวะปกติจะต้องลดลงตามฤดูกาล อีกทั้ง MML รับรู้รายได้สูงขึ้นตาม Backlog และในปี 2567 อุตสาหกรรมเดินเรือยังสมดุล ผู้บริหารยังมีมุมมองบอกต่อธุรกิจ อีกทั้ง MML มี U Rate เต็มตลอดปีจากรับรู้ backlog 55% แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน จึงปรับลดการอิง PB ที่ 0.45 เท่า ราคาพื้นฐาน 7.65 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

4Q66 ดีขึ้น q-q ดีกว่าที่เคยมองไว้ หลังค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น และ MML รับรู้ backlog เพิ่ม

ดัชนี BD ที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วงนี้มาจากเรือขนาด Capesize (การบรรทุกมากกว่า 9 หมื่นต้น) ซึ่งดัชนี BCI เรือ Capesize) มีน้ำหนักในการคำนวณดัชนี BDI ที่ 40% ใช้ขนส่งสินแร่เหล็กและถ่านหิน ปรับตัวขึ้นโดดเด่น 90% q-q ในช่วง 1 ต.ค.-1 ธ.ค. จากการ Re-stock สินแร่เหล็กและถ่านหินของจีนที่ช่วง 3Q66 ชะลอการนำเข้า รวมถึงการนำเข้าถ่านหินของประเทศอื่นจากออสเตรเลีย ซึ่งส่งผลบวกมายัง Supramax (ดัชนี BSI) ที่ TTA ใช้อ้างอิง มีการปรับตัวขึ้น 34% q-q ค่าระวางเรือในตลาดเฉลี่ยที่ 13,489 ดอลลาร์/วัน/ลำ (1 ธ.ค. อยู่ที่ 16,378 ดอลลาร์) และเป็นค่าเฉลี่ยรายไตรมาสสูงสุดของปี คาดเดินเรือจะมีกำไรดีสุดของปี อีกทั้ง MML มี Backlog สูงมากถึง 697 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง 11% จะรับรู้เข้ามาใน 4Q66 คาด MML มีรายได้ที่ 2,875 ล้านบาท ในขณะที่ PMTA 3Q66 คู่ค้าที่เวียดนามได้มีการตุนสินค้าไว้บ้างแล้วก่อนเข้าฤดูเพาะปลูกใน 4Q66 อาจทำให้ 4Q66 ปริมาณขายอาจไม่สูงเมื่อเทียบ 3Q66 ที่มีปริมาณขาย 5.76 หมื่นตัน ภาพรวมคาด 4Q66 กำไรจะดีขึ้น q-q และ 4Q65 ที่ขาดทุน 194 ล้านบาท จากปีก่อนมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและสินทรัพย์ดิจิทัล

1Q67 อาจอ่อนตัวลง q-q ตามฤดูกาลของค่าระวางเรือ แต่ MML ยังดี U Rate เต็ม

โดยปกติไตรมาส 1 จะเป็น low season สุดของปีในธุรกิจเดินเรือ เนื่องจากวันหยุดปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน (เริ่ม 10 ก.พ.) ทำให้กิจกรรมการขนส่งลดลงในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังได้ผลบวกอยู่บ้างจากสัญญาที่ทำไว้ตอนค่าระวางสูงใน 4Q66 ส่วน MML เรือทั้ง 4 ลำ จะทำงานได้เต็ม 100% จากการรับรู้ Backiog รายได้สูงขึ้น y-y ทำให้ MML มีกำไรสูงขึ้นจาก 1Q66 ที่ขาดทุน 96 ล้านบาท

2567 เดินเรืออุปสงค์อุปทานยังสมดุล และ MML จะทำงานเต็มตลอดปี 2567

Clarksons Research ฉบับ ต.ค. 2566 ได้คาดการณ์ในปี 2567 อุปสงค์ (demand) +1.8% y-y และ อุปทาน (supply) +2.2% แตกต่างกันไม่มาก และหากรวมผลกระทบจากการบังคับกฎ EEXI และ CII เรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน จะทำให้ Supply เรือลดลง 1.5-2% ทำให้ TTA ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจเดินเรือยังอยู่ในภาวะสมดุล ส่วน MML มี backlog สูงเนื่องจากการได้งานขนส่งและติดตั้งและงานรื้อถอน ซึ่งคิดเป็น 75% ของ backlog ทั้งหมด โดย 55% หรือ 384 ล้านดอลลาร์จะรับรู้ในปี 2567 ทำให้ตลอดทั้งปีเรือ Subsea IRM ทั้ง 4 ลำ จะมี U Rate เต็ม ซึ่งเมื่อคำนวณที่ 35 บาท/อลลาร์ เทียบเท่า 13,440 ล้านบาท เติบโตจากคาดการณ์ปี 2566 กว่า 40% y-y ทำให้กำไรของ MML สูงขึ้นกว่าในปี 2566

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 7.65 บาท

4Q66 ดัชนี BSI ปรับตัวดีขึ้นผิดจากฤดูกาลและจากที่คาดไว้ จึงปรับกำไรปี 2566 ขึ้นเป็น 1,743 ล้านบาท และปี 2567 ที่ 2,101 ล้านบาท บนคาดการณ์ค่าระวางโต 8% y-y ที่ 16,800 ดอลลาร์ จากปี 2566 ที่ค่าระวางลดลง 42% y-y และ MML ที่กำไรดีขึ้น แต่ IMF ได้คาดเศรษฐกิจโลกปี 2567 GDP เติบโต 2.9% จากปี 2566 ที่ 3% จากเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วโตชะลอตัวลงเหลือ 1.4% จากปีนี้ที่ 1.5% จากสหรัฐฯ และญี่ปุ่นชะลอตัวลง รวมถึงตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาโต 4% จากปีนี้ที่ 4.1% โดยจีนจะมี GDP โตที่ 4.2% จากปีนี้ที่ 5% มองยังมีความไม่แน่นอนเรื่องเศรษฐกิจโลกอยู่และบริษัทมีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (โทเคน) สูงถึง 2,629 ล้านบาท อาจทำให้ผลกำไรมีความผันวน รวมถึงราคาหุ้นมักตอบสนองกับดัชนี BDI ซึ่งมีความผันผวนสูงเพื่อเป็นการ conservative มากขึ้น ปรับลด PB มาอยู่ที่ 0.45 เท่า (-0.7 SD จากเฉลี่ย 5 ปีย้อน หลังที่ 0.59 เท่า) ราคาพื้นฐาน 7.65 บาท ยังมี upside อยู่พอสมควร ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากวัฏจักรตลาด/อุตสาหกรรม/ภาวะเศรษฐกิจโลก
  2. ความเสี่ยงด้านการร่วมทุน/หุนส่วนธุรกิจ และลงทุนในโครงการใหม่
  3. ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ
- Advertisement -