KS Daily View 07.12.2023 >>> คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,375-1,400 จุด เป็นการถ่วงน้ำหนักกันในหุ้นกลุ่มพลังงานที่อาจจะปรับลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลง  หุ้นแนะนำ GPSC, COM7

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

  • ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA -0.19%, S&P 500 -0.39%, NASDAQ -0.58%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ IT (+0.82%), Consumer Discretionary (+0.32%),  Communication Services (+0.21%), ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Energy (-1.70%), Materials (-1.38%), Industrials (-0.86%) เป็นต้น
  • ในประเทศ: SET Index +6.01 จุด หรือ +0.43% ปิดที่ 1,389.55 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ BYD (+4.68%), PTG (+4.09%), BTG (+3.85%), VGI (+3.68%) เป็นต้น ส่วนที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ PSL (-5.29%), THG (-3.10%), RCL (-2.78%), BDMS (-1.90%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,375 – 1,400 จุด มองเคลื่อนไหวออกด้านข้าง เป็นการถ่วงน้ำหนักในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงแรง ขณะที่จะได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ปรับลดลงที่ 2.85% และการเข้าซื้อหุ้น ESG ที่อาจจะเป็นเป้าหมายของกองทุน TESG เดือนนี้

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ข้อมูลจาก ADP แสดงให้เห็นว่าการจ้างภาคเอกชนในสหรัฐฯ เพิ่มงานเพียง 103,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ลดลงจากระดับ 106,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่ง
  2. ราคาน้ำมัน WTI ลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยไม่รวมการดึงสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่มากกว่าที่คาด เนื่องจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงขึ้นและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ บนความเชื่อมั่น
  3. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่ประมาณการไว้ว่าจะลดลง 1.03 ล้านบาร์เรล ในขณะที่อุปทานน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่จะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
  4. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 4.125% เนื่องจากตลาดแรงงานอ่อนแอลง ตลาดคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 100bps ในปีหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปรับลดลงตามเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.85%

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,410จุด โดยภาพใหญ่ของตลาดจะยังคงถูกกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และจะเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก มีโอกาสจะทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจาก fund flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาสะสมหุ้นไทย ดังนั้น เราแนะนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยเฉพาะตัว นำโดย BCH (ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท) TIDLOR (ราคาพื้นฐาน 31.4 บาท)  GPSC (ราคาพื้นฐาน 53.0 บาท)

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • GPSC (ราคาพื้นฐาน 53.00 บาท) หุ้นใน SET50 ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ AA นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการที่ กกพ. มีมติปรับขึ้นค่าไฟเฉลี่ยที่ 4.68 บาท/หน่วย งวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 พแม้ว่ารัฐบาลอยากให้ปรับลดลงมา แต่เรามองว่าน่าจะสูงกว่าปัจจุบันที่ 3.99 บาท/หน่วย รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปีปรับลดลงที่ 2.84% เป็นแรงหนุน sentiment กลุ่มโรงไฟฟ้า
  • COM7 (ราคาพื้นฐาน 34.02 บาท) หุ้นใน SET100 ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ A นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากมาตรการ Easy E-Receipt ต้นปีหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อใบเสร็จที่สูง (Ticket size) ทั้งนี้งบในไตรมาส 4 อาจจะอ่อนแอลง เนื่องจากลูกค้าเลื่อนการใช้จ่ายปลายปีนี้ ไปเป็นต้นปีหน้าจากมาตรการดังกล่าว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขการค้าของจีนสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดยอดส่งออกหดตัว -5.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -6.4% YoY และยอดนำเข้าตลาดคาดขยายตัว +4.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว +3.0% YoY ต่อด้วยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline Consumer Price Index – headline CPI) ของไทยสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ -0.5% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.3% YoY และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Consumer Price Index – core CPI) ของไทยสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ +0.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.6% YoY
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข GDP สำหรับไตรมาส 3/2566 ซึ่งเป็นรอบทบทวนครั้งสุดท้าย ตลาดคาดลดลง -0.5% QoQ เทียบกับตัวเลขที่ประกาศรอบก่อนหน้าที่ -0.5% QoQ ต่อด้วยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (Non-farm payrolls) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 175,000 ตำแหน่ง เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 150,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานของสหรัฐฯเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 3.9% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.9% และปิดท้ายด้วยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่น (University of Michigan) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 61.4 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 61.3
- Advertisement -