บล.บัวหลวง: 

Commerce – ยอดขายสาขาเดิมเฉลี่ยเดือน พ.ย. มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากกลุ่มค้าปลีกก่อสร้าง (OVERWEIGHT)

ยอดขายสาขาเดิมเฉลี่ยเดือน พ.ย. มีแนวโน้มลดลง แม้หุ้นส่วนใหญ่จะรายงานยอดขายสาขาเดิมโตได้ในเดือนนี้ แต่ยอดโดยรวมถูกดึงลงโดยยอดขายสาขาเดิมกลุ่มค้าปลีกก่อสร้างที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะ DOHOME (เนื่องจากจบฐานต่ำจากน้ำท่วมในเดือน.. 2566)

ยอดขายสาขาเดิมเฉลี่ยเดือน.. มีแนวโน้มลดลง

เราคาดยอดขายสาขาเดิมของกลุ่มค้าปลีกที่เราให้คำแนะนำเฉลี่ยลดลง 0.6%ในเดือน.. 2566 เนื่องจากกลุ่มค้าปลีกก่อสร้าง ในทางตรงกันข้าม กลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคจะยังคงปรับตัวโดดเด่น โดยผู้ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภครายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเฉลี่ยที่ 2.5% นำโดย Lotus’s (คาดยอดขายสาขาเดิมเติบโต 5-6%) ตามมาด้วย makro (คาดยอดขายสาขาเดิมเติบโต 3-4%) และ CPALL (คาดยอดขายสาขาเดิมเติบโต 2-3%) ยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตอย่างรวดเร็วของ Lotus’s มาจากฐานที่ต่ำในเดือน.. 2565 และหนุนจากการปิดร้านค้าที่ผลประกอบการไม่โดดเด่นในช่วงปีที่แล้ว เราคาดว่า Makro และ CPALL จะยังคงรักษาการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมต่อเนื่อง หนุนโดยร้านค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว

ยอดขายสาขาเดิมกลุ่มค้าปลีกก่อสร้างคาดว่าจะลดลง 11% ในเดือน.. ซึ่งสูงกว่ายอดขายสาขาเดิมในเดือน ต.ค. ที่ลดลง 3% โดยยอดขายสาขาเดิมที่ลดลงเป็นผลมาจาก DOHOME เนื่องจากฐานที่สูงขึ้นในเดือน.. 2565 (ในเดือน.. 2565 มีฐานที่ต่ำจากสาขาอุดรธานีถูกปิดเนื่องจากน้ำท่วม เมื่อเปิด อีกครั้งในเดือน.. 2565 อุปสงค์ที่ฟื้นตัวส่งผลต่อยอดขาย) ยอดขายสาขาเดิมกลุ่มค้าปลีกก่อสร้างที่ยังอ่อนแอแสดงให้เห็นถึงดีมานด์ในจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว (โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ยังคงอ่อนแอ แต่เรายังคาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงปลายเดือน.. การใช้จ่ายใน ต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

ยอดขายสาขาเดิมในเดือน พ.ย. ของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ที่ 1.6% ซึ่งเป็นแนวโน้มฟื้นตัวจากยอดขายสาขาเดิมที่ลดลง 0.3% ในเดือน.. หนุนโดยยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นจาก ILM, CRC และ TAN

โครงการคืนภาษีส่งผลให้มีการปรับตารางการใช้จ่ายจากไตรมาส 4/66 ไปเป็นไตรมาส 1/67

เรามองว่าการใช้จ่ายช่วงเทศกาล ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และค่าไฟฟ้า ต่อหน่วยที่ลดลง ถือเป็นผลดีต่อกลุ่มค้าปลีกในไตรมาส 4/66 ไตรมาสนี้จะทำกำไรพีที่สุดของปีนี้ (โดยบริษัทที่เราให้คำแนะนำส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกฟุ่มเฟื่อยจะรายงานการเติบโตของกำไร YoY และ QoQ) อย่างไรก็ตามการประกาศโครงการคืนภาษี Easy E-Refund สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการที่ซื้อระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. 2567 รวมเป็นเงิน 50,000 บาท/คน น่าจะส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนปรับตารางการใช้จ่ายจากเดือน ธ.ค. 66ไปเป็นเดือน ม.ค. – ก.พ. 2567 โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง เช่น สมาร์ทโฟนเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เราคาดว่าโครงการคืนภาษีจะหนุนยอดขายและกำไรไตรมาส 1/67

ยังคงชอบหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 4/66 และครึ่งแรกของปี 2567

เรายังคงแนะนำให้เลือกลงทุนเฉพาะตัว โดยเราชอบ CPN, CPALL และ ILM ในด้านมูลค่าและแนวโน้มการเติบโต นอกจากนี้ เราชอบ GLOBAL ในเรื่องการฟื้นตัวของรายได้และอาจมีอัพไซด์ต่อรายได้ภาคเกษตรที่สูงขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมต่างจังหวัด

 

- Advertisement -