ตลาดมองตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี ส่งสัญญาณลงจอดแบบนิ่มนวล
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.4% นักลงทุนยังคงมองบวกกับปัจจัยผ่อนคลายนโยบายการเงินจากทางธนาคารกลางสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ชีว่าสหรัฐฯจะไม่ถดถอยหนัก ด้านน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 3.2% หลัง IEA ปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันในปีหน้า
Market Outlook
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนได้รายงานยอดค้าปลีกประจำเดือน พ.ย. ขยายตัว 0.3%MOM ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ -0.1%MoM พบว่าสินค้าที่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนได้แก่ชิ้นส่วนยานยนต์ (+0.5%MoM) เฟอร์นิเจอร์ (+0.9%MoM) อุปกรณ์กีฬาและดนตรี (+1.3%MoM) อย่างไรก็ตามมีสินค้าที่หดตัวได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (-1.1%MoM) สถานีให้บริการน้ำมัน (-2.9%MoM) พร้อมกับรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.02 แสนราย แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.19 แสนราย แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนกลับมองเป็นปัจจัยบวกด้วยว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ Soft Landing มากกว่า Hard Landing และมีปัจจัยการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ FED เป็นอีกแรงหนุน ด้านการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์พบว่า US Bond Yield กลับมาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ CME FED Watch ยังให้น้ำหนักมากราว 83% ว่า FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิมในการประชุมสิ้นเดือน ม.ค. และปรับเพิ่มน้ำหนักลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 17% จากเดิม 10% พร้อมกับคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะปรับลงครั้งแรกในช่วงเดือน มี.ค. 24 ระยะสั้นปัจจัยการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะเป็นแรงบวกให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย
อย่างไรก็ตามปี 24 ยังคงระมัดระวังกับการถดถอยหนักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยมีหลายปัจจัยเป็นเครื่องมือยืนยัน อาทิ Inverted Yield Curve, ISM PM ที่ยังอ่อนแอ (เข้าสู่ภาวะหดตัว), ตำแหน่งเปิดรับสมัครงานที่ลดลงต่อเนื่อง
ปัจจัยติดตามวันนี้ได้แก่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในช่วงเวลา 9 โมง ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 5.7%YoY และภาคผลิตและบริการฝั่ง EU (PMI เบื้องต้น) ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยังเป็นภาวะหดตัว (ต่ำกว่าระดับ 50) ยกเว้น PMI ภาคบริการของ UK ที่คาดไว้ระดับ 51 สำหรับสหรัฐฯรอติดตามผลผลิตภาคอุตสาหกรรม Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งขึ้นกรอบ 1380 – 1390เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมได้เช่นเดิมจากระดับ Valuation ที่ยังถูก อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (SAWAD TIDLOR) สื่อสาร (ADVANC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ส่งออก (TU) อสังหาฯ (AP SPALI) ส่วน Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรของ PTTEP ในไตรมาส 4/23 และปี 2024 ราคาน้ำมันดบที่ปรับเพิ่มขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ย ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YoY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFDEIA ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะยังยืนในกรอบสูงช่วงไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 จากสภาวะอุปทานที่ตึงตัวหลัง OPEC+ ลดการผลิตลง ซึ่งอาจลดต่อเนื่องในปีหน้า
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)
คาดว่ากำไรไตรมาส 4/23 จะโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ จาก SSSG ที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่ดี และการขาดหายไปของค่าตอบแทนพนักงานพิเศษที่เกิดขึ้นปีก่อน ปัจจัยบวกสำคัญคือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐผ่านนโยบายเงิน ดิจิทัล 5 แสนล้านบาท
