ไร้ปัจจัยใหม่ๆวันนี้รอติดตามประชุม ครม.
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยผ่อนคลายดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.8% ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันตลาดโลกได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศหุ้นเข้า – ออก SET50, SET100 สำหรับรอบครึ่งปีแรกของปี 24 พบว่าหุ้นที่เข้า SET100 ได้แก่ AEONTS ICHI ITC M MOSHI RBF SAPPE SISB TKN TOA หุ้นออก SET100 ได้แก่ ACE CKP MBK PSL PTG SABUY STEC THANI TIPH TQM เข้า SET50 ได้แก่ KCE และออกได้แก่ TIDLOR มองหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณได้จิตวิทยาเชิงบวกระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีผลใดๆต่อปัจจัยพื้นฐาน ส่วนในประเทศวันนี้รอติดตามประชุม ครม. รายงานเบื้องต้นชี้ว่าจะมีการเสนอมาตรการลดค่าไฟฟ้างวดใหม่ในช่วง ม.ค. – เม.ย. 24 โดยคาดตัวเลขค่าไฟจะไม่เกิน 4.2 บาท / หน่วย ระยะสั้นมองเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า
สำหรับต่างประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ ค่อนข้างทรงตัวไม่ว่าจะเป็นตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น ตลาดทองคำ ประเมินว่าอยู่ในช่วงแกว่งรอปัจจัยใหม่ๆ หลังจากก่อนหน้าได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคืนนี้รอติดตามตัวเลขอสังหาฯในสหรัฐฯ อาทิ ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.47 ล้านใบอนุญาต และ 1.36 ล้านหลังคาเรือน หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดไว้จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อตลาดหุ้น และคืนพรุ่งนี้รอติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 104.6 และ 3.77 ล้านหลังคาเรือน
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1385 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำทยอยสะสมได้สำหรับการลงทุนระยะกลางขึ้นไปจากระดับ Valuation ที่ไม่แพง เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อสาร (ADVANC) สื่อนอกบ้าน (PLANB) เชิง Trading ระยะสั้นวันนี้แนะนำกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ยขึ้น ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YoY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFD
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 84.50 บาท)
ช่วง 4Q23 ในแง่รายได้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ จากการเป็นช่วง High Seasons ของธุรกิจ และการเปิดศูนย์ใหม่อย่างเซ็นทรัล เวสท์วิลล์ ในช่วงปลายเดือน พ.ย. รวมถึงโรงแรมเซ็นทารา อยุธยา อีก 1 แห่ง แต่สิ่งที่จะทำให้เติบโตจาก 3Q23 ได้หรือไม่คือรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่าจะอยู่ในระดับ 1,900 ล้านบาทได้หรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นทาง CPN คาดว่าจะรักษาระดับดังกล่าวได้ โดยมี Backlog รอโอนอยู่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิอาจจะลดลงจาก 3Q23 เพราะค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น