KS Daily View 20.12.2023 >>> SET ปรับขึ้น ตามความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า คาด SET แกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,390-1,400 จุด หุ้นแนะนำเก็งกำไร PTTEP, HANA

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA +0.68%, S&P 500 +0.59%, NASDAQ +0.66%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Energy (+1.22%), Communication Services (+0.92%), Materials (+0.91%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Consumer Staples (+0.21%), IT (+0.24%) เป็นต้น

ในประเทศเมื่อวันจันทร์: SET Index +1.49 จุด หรือ +0.11% ปิดที่ 1,394.90 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ SABUY (+30.39%), TLI (+8.29%), DELTA (+4.34%), BCH (+4.31%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ PSL (-4.49%), MTC (-2.79%), AAV (-2.50%), RATCH (-2.44%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,390 – 1,400 จุด วันนี้ ตามการปรับตัวขึ้นของต่างประเทศวานนี้บนความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า คาดตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อต่อเนื่องในหุ้น DELTA ที่ถูกยังอยู่ในดัชนี SET50 รอบครึ่งปีหน้า รวมถึงแรงเก็งกำไรต่อในกลุ่มพลังงาน, เรือ Container, Freight forwarder และผู้ส่งออก ซึ่งได้ประโยชน์ในระยะสั้นจากการโจมตีในทะเลแดง อย่างไรก็ตามกลุ่มโรงไฟฟ้า และ PTT อาจได้ sentiment ลบจากนโยบายตรึงราคาพลังงานของภาครัฐ

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ในวันอังคาร (19 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่เหนือระดับ 15,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แม้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่คิดว่าเฟดจะเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งมาก แต่ตลาดยังคงเชื่อว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2567

2.) จับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.0% ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.5% ในเดือนต.ค.

3.) รมว.พลังงานไทย เปิดเผยว่า ได้มีการนำเสนอมาตรการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยจะมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ค่าก๊าซแอลพีจีและก๊าซหุงต้ม ตรึงไว้ที่่ 423 บาทต่อ 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน รวมถึงค่าไฟไม่ให้เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้การตรึงราคาดีเซลจะไม่กระทบกลุ่มปั๊มเนื่องจากใช้เงินกองทุนน้ำมัน ส่วนโรงไฟฟ้า SPP ต้องรอดูว่า กฟฝ.จะต้องแบกรับภาระเพิ่มหรือไม่ ถ้า กฟผ. ต้องช่วยลดค่า Ft จะกระทบโรงไฟฟ้า SPP ด้วย

4.) PTT อยู่ระหว่างอุทธรณ์ประด็นนำส่งค่าขาดส่งก๊าซ 4.3 พันล้านบาท จากประเด็นที่ กพช. ต้องการให้นำส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติดังกล่าวมาช่วยลดค่าไฟฟ้างวด มค-เมย 67 ไม่ให้เกิน 4.20 บาท/หน่วย ทั้งนี้หากนำค่าปรับการขาดส่งก๊าซธรรมชาติจำนวน 4.3 พันล้านบาทมาลดค่าไฟฟ้า คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรปี 2567 ของ PTT ประมาณ 4.8% หรือคิดเป็น EPS ประมาณ 0.15 บาท เรามองเป็นลบต่อ PTT ในช่วงสั้น จากโอกาสที่จะได้รับผลกระทบดังกล่าว คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมาย 34.70

5.) กระทรวงท่องเที่ยวรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยว 11-17 ธ.ค. ทำ new high ของปีอีกครั้งที่ 9.7 หมื่นคนต่อวัน หรือเติบโต 3.0% WoW หนุนจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวลงมาเป็น 1.3 หมื่นคนต่อวัน (-7% WoW)

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,380-1,440 จุด ในสัปดาห์นี้ โดยมีปัจจัยหนุนจาก การอ่อนค่าของ USD หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจนในปีหน้า หนุน Funds flow ไหลเข้าลงทุนในตลาด Emerging market โดยตลาดหุ้นไทยที่ยัง laggard ดัชนี MSCI ACWI มากกว่า 30% YTD นอกจากนี้คาดจะเห็นเม็ดเงินกองทุน Thai ESG เริ่มทยอยเข้าลงทุนหลังจบช่วง IPO และอาจเห็นการทำ window dressing ช่วงปลายปีด้วย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน, ยอดขายบ้านใหม่, ยอดขายบ้านมือสอง, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล, ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ย. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • PTTEP (ราคาพื้นฐาน 180 บาท) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ +1.9% เป็น US$79.40/bbl หลังรัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน 50,000 BOED หรือมากกว่าในเดือน ธ.ค. เร็วกว่าคาด และบริษัทบีพีซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ประกาศระงับการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงบนภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี
  • HANA (ราคาพื้นฐาน 54 บาท) ราคาหุ้น HANA ลดลง -2.4% YTD และยัง laggard DELTA (+8.7% YTD) และ KCE (+18% YTD) มองจะได้ sentiment บวกจากยอดขายชิปทั่วโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H23 รวมถึงการจัดส่งพีซีและสมาร์ทโฟนทั่วโลกดีขึ้น QoQ ในไตรมาส 3/2566 และอาจดีต่อเนื่องใน 4Q23

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธติดตาม การประกาศตัวเลขอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของทางการจีนระยะ 1 และ 5 ปี หรือ Loan prime rate ตลาดคาดทางการจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.45% และ 4.20% ตามลำดับ ต่อด้วยรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ (CB Consumer Confidence) สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 103.8 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 102 จุด และติดตามตัวเลขยอดขายบ้านที่ไม่รวมบ้านสร้างใหม่ (Existing Home Sales) ของเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 3.78 ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.79 ล้านยูนิต
  • วันพฤหัสบดีฯ ติดตาม การประกาศตัวเลข GDP สหรัฐฯสำหรับไตรมาสที่ 3 โดยจะเป็นประกาศเพื่อปรับปรุงทบทวนตัวเลขครั้งสุดท้าย ตลาดคาดที่ 5.2% เท่ากับที่ประกาศทบทวนครั้งก่อนหน้าที่ 5.2% ต่อด้วยติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิต Philly Fed Manufacturing Index ของเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ -3 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -5.9 จุด ในส่วนของประเทศไทยติดตามตัวเลขยอดขายรถยนต์สำหรับเดือน พ.ย. โดยข้อมูลเดือนก่อนหน้ารายงานยอดขายได้ที่ 58,963 ยูนิต หรือ -8.75% YoY
  • วันศุกร์ติดตาม ตัวเลขยอดขายสินค้าคงทนของสหรัฐฯ (Durable goods orders) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ +1.7% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -5.4% MoM และ ตัวเลขยอดขายสินค้าคงทนของสหรัฐฯที่ไม่รวมยานยนต์ (Core Durable goods orders) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ +0.2% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.0% MoM ต่อด้วยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ (New Home Sales) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 6.95 แสนยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.79 แสนยูนิต
- Advertisement -