บล.บัวหลวง:

Seafco PCL. (SEAFCO TB / SEAFCO.BK)

SEAFCO – รอบใหญ่กำลังมา แต่รอจังหวะราคาขึ้นพร้อมกลุ่ม

ระยะสั้นราคาหุ้นและผลประกอบการ SEAFCO อาจดูยังไม่ค่อยหวือหวามากนัก ด้วย Backlog ที่เป็นระดับประคองตัว แต่เชื่อว่าเมื่อกระแสข่าวงานโครงการขนาดใหญ่กลับมา โดยเฉพาะสายสีส้มฯ และรถไฟความเร็วสูง หุ้นกลุ่มรับเหมางานเสาเข็ม (นำโดย SEAFCO) จะ ถูกหยิบขึ้นมาดักเก็งกำไรตาม เพราะเป็นงานกลุ่มแรกที่จะเริ่มเมื่อดำเนินการ อีกทั้งยังรับรู้รายได้-กำไรค่อนข้างเร็วกว่ารับเหมาใหญ่ดังนั้น เราแนะนำรอจังหวะการลงทุนตาม Event เพื่อไม่ให้เสียรอบ…

ระยะสั้นเน้นประคองตัวไปตามเป้าหมาย

ข้อมูลสำคัญจากงาน Opportunity day ล่าสุด เรามองว่าตัวเลขมูลค่า Backlog ปัจจุบันที่ 1 พันล้านบาท (และรอลงนามอีก 200 ล้านบาท) ซึ่งปกติจะรับรู้รายได้โดยเฉลี่ย 6 เดือนข้างหน้า จะทำให้แผนการรับรู้รายได้ปีนี้เข้าเป้าที่ 1.8 พันล้านบาท และใน 1H24 ยังคงรักษาระดับใกล้เคียงเดิมได้ โดยหากอิงตาม Utilization rate ราวๆ 70-80% คาดในเบื้องต้นว่าจะมีฐานกำไรระดับ 35-45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ก้าวกระโดด YoY (ฐานต่ำ และ Backlog ที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง QoQ ตามทิศทางการรับรู้รายได้ โดยงานหลักงวดนี้ จะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้

มีโอกาสลุ้นปันผลกลับมา และในปี 2024 ลุ้นงานใหม่เติมพอร์ต

แม้ภาพรวมอุปสงค์ยังไม่กลับมาระดับก่อนโควิด-19 แต่เป้าหมายในปี 2024 บริษัทคาดหวังว่า Backlog จะเพิ่มได้เกือบเท่าตัว (จากปัจจุบัน 1 พันล้านบาท) กลับไปราว 1.8-2 พันล้านบาท (ก่อนโควิด-19 เคยทำได้ราว 2-3 พันล้านบาท) จาก Potential Project ราว 6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น Win-rate ราว 30% แต่สังเกตุว่าประมาณการของตลาดยังไม่ได้ Priced-in ภาพนั้นทั้งหมด (ยังมองอนุรักษ์นิยมกว่าบริษัท) เนื่องจากปัจจุบัน Bloomberg Consensus คาดรายได้ปี 2024 ราว 1.8 พันล้านบาท เติบโตเพียง 5% YoY และคาดกำไรหลักที่ 151.3 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่จุดกลับตัวในปี 2023 ที่เป็นปีที่พลิกกลับมามีกำไร ดังนั้น เราคาดว่ามีโอกาสกลับมาจ่ายปันผลได้ หลังจากงดจ่ายมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 สำหรับประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตลาดประเมินทุกๆ 1% จะกระทบกำไรราวๆ 0.8-1%

หากงานรับเหมาใหญ่มา ตีตั๋วรับประโยชน์เป็นกลุ่มแรกๆ

ช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจะเป็นจุดกลับตัวของกลุ่มรับเหมาฯ หลังจากงานโครงสร้างพื้นฐานใหญ่หลายโครงการจบไป (เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู) จะเข้าสู่เฟสการเร่งโครงการอื่นๆ ออกมา ซึ่งคาดหวังได้มากขึ้น เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่หากมีความชัดเจน และจัดประมูลนอกจากกลุ่มเสาเข็มฯ จะเป็นกลุ่มแรกที่เริ่มงานแล้ว มูลค่าโครงการใหญ่เกินพอที่จะชดเชยงานคอนโดที่ยังไม่ฟื้น และการแข่งขันของ บ. เสาเข็มไทย นอกจากงานในประเทศ บริษัทยังโฟกัสในต่างประเทศอย่างรถไฟฟ้าฯ ที่บังคลาเทศด้วย

แม้หุ้นถูก แต่เราแนะนำรอเก็งกำไรตามรอบการเล่นของกลุ่มรับเหมาฯ ใหญ่

ปกติกลุ่มรับเหมาฯ มักเก็งกำไรตามกระแสของข่าวงานประมูล หรือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และจุดเด่นของ SEAFCO ในแง่ Valuation อิงตาม PBV ถือว่าอยู่ในจุดที่ถูกที่สุดในรอบ 10 ปี ที่ 1.2 เท่า (แม้ใช้ Trailing PBV) ขณะที่แนวโน้มกำลังจะกลับมาสดใส ทำให้เรามอง Downside risk ต่อราคาหุ้น (อย่างมาก Bottom ก็ไม่น่าต่ำ 1 เท่า) จำกัดมากกว่า Upside gain ที่ค่าเฉลี่ย PBV 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 2.9 เท่า (สูงกว่าปัจจุบันราว 130%) อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่ม รับเหมาขนาดกลาง-เล็กแบบนี้ เราแนะนำให้รอเก็งกำไรช่วงขาขึ้น ไม่ให้เสียรอบ

 

- Advertisement -