รอบด้านตลาดหุ้น: ซานต้า…ปีนี้ใจดีกับหนูหน่อย

สรุปภาพตลาดวานนี้

ศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวยืนเหนือ 1400 หุ้นบวกพยุงตลาด DELTA กลุ่มคอมมิร์ช CPALL CRC CPN GLOBAL COM7 และหุ้นกลาง-เล็กหลายตัวบวกได้ดี และกระจายกลุ่มมากขึ้น WPH RCL PRM TEAMG TH RBF JTS NETBAY KAMART THCOM SANKO ขณะที่หุ้นกดดัน เช่น GULF EA BBL SCGP AOT BEM INTUCH TRUE AWC

ภาพตลาดและแนวโน้ม

สัปดาห์สุดท้ายส่งท้ายปี คาดดัชนี Sideways up 1,395-1,420 จุด โดยเป็นสัปดาห์ส่งท้ายปีที่ไม่น่าจะมีประเด็น บวก/ลบ ใหม่ๆ ที่จะมีผลต่อการขับเคลื่อนหุ้นบูลชิพใหญ่

และเราคาดว่า หุ้นกลางเล็ก “หุ้น High growth” ของไทย ที่ราคาลงแรงตลอดปี 2566 มีโอกาสจะกลับมารีบาวด์ ได้ดีกว่า ดัชนีฯ SET ตามโมเมนตั้มของ ตลาดหุ้นโลกที่เริ่มเห็นภาวะ “Risk on” ในหุ้นกลางเล็ก เช่น Russell 2000 ในสหรัฐที่ปรับขึ้นแล้ว 3% ตลอด 5 วันทำการที่ผ่านมา ดีกว่าดัชนีใหญ่ อย่าง ดาวโจนส์ เอสแอนด์พี และ แนสแด็ก ที่ดัชนีฯทรงตัวในกรอบแคบ…

หุ้นแนะนำวันนี้ : CPN 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

  • กก.เคาะค่าไฟคาด 4.15-4.19 บาท (ลดจากที่เสนอ 4.68 บาท)
  • จีน จัดสรรเงิน 8 แสนล้านหยวน (จากงบ 1 ล้านล้านหยวน) จากการออกพันธบัตรเพิ่ม ในไตรมาส 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงการลงทุนเพื่อควบคุมบรรเทาภัยพิบัติ
  • ข่าวลบโครงการรถไฟฟ้าทั้งสีชมพูและม่วง ออกมาพร้อมๆ กัน คาดเป็น Sentiment กดดันหุ้นกลุ่มขนส่งสาธารณะ และรับเหมาฯ ในระยะสั้น
  • โรดโชว์ “แลนด์บริดจ์” ญี่ปุ่น พบ 23 บริษัท จาก 9 กลุ่มธุรกิจ กระทรวงเศรษฐกิจการค้าฯ (METI) จ้าง KPMG เป็นที่ปรึกษา
  • กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย
  • รายงาน PCE Price Index สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
  • ความไม่สงบในทะเลแดง กับความผันผวนต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์

Global Investing Brief: จีนคุมเข้มตลาดเกม ด้าน Apple เตรียมขาย Vision Pro ต้นปีหน้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนวันศุกร์ 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดผสม โดยดัชนี DJIA -0.1% S&P 500 +0.2% และ Nasdaq +0.2% หลังสหรัฐฯ เผยดัชนีราคาเพื่อการบริโภคทั่วไป (Headline PCE) เดือน พ.ย. 66 ปรับขึ้น 2.6%YoY ชะลอลงจาก 2.9%YoY ในเดือน ต.ค. 66 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.8%YoY ส่งผลให้ตลาดให้น้ำหนักราว 74.1% ที่ Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยใน มี.ค. 67 (FedWatch Tool) ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการคืนนี้ เนื่องในวันหยุดคริสต์มาส และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 26 ธ.ค. 66
  • Alphabet (GOOGL) กำลังมีแผนปรับโครงสร้างทีมฝ่ายขายโฆษณาในองค์กร โดยจะย้ายพนักงานจำนวนหนึ่งไปดูแลลูกค้ารายใหญ่ และมีแผนผลักดันการใช้ Machine Learning ในการขายโฆษณามากขึ้น เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนรายได้ค่าโฆษณาของบริษัท (สัดส่วนรายได้ราว 79%) ขณะที่ Bloomberg cons. เผยรายได้ค่าโฆษณาของ GOOGL มีแนวโน้มโต 12%YoY ในปี 67 พร้อมให้ TP ที่ $154.23 (upside 9.0%)

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี Hang Seng ปิดลบ 1.7% กดดันโดย NetEase (9999) -24.6% และ Tencent (700) -12.4% หลังทางการจีนเสนอร่างกฎหมายเพื่อกำหนดวงเงินการใช้จ่ายในเกมออนไลน์ อีกทั้งผู้ผลิตเกมจำเป็นต้องนำเสนอรูปแบบการให้รางวัลที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการติดเกมของเยาวชน และการใช้อินเตอร์เน็ตที่มากเกินไป เราจึงมองเป็นปัจจัยกดดันรายได้ของ Tencent และ NetEase ในระยะข้างหน้า ดังนั้น นักลงทุนจึงอาจระมัดระวังการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ไปก่อนในระยะสั้น ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงจะปิดทำการในวันที่ 25-26 ธ.ค. 66 เนื่องในวันหยุดคริสต์มาส และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 27 ธ.ค. 66
  • BYD (1211) ประกาศสร้างฐานการผลิตรถยนต์ EV แห่งใหม่ในเมืองเซเกดทางภาคใต้ของประเทศฮังการี โดยเรามองบวกต่อการตั้งโรงงานในยุโรป เนื่องจากถือเป็นการต่อยอดโรงงานรถบัส EV ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD337.18 (upside 66.4%)

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • ดัชนี VN ทรงตัวแดนบวก (+0.1%) ในวันศุกร์ โดย BID +1.6% และ FRT +0.6% หลังเวียดนามเผยว่าจะยุติข้อกำหนดที่ระบุว่านักลงทุนสถาบันต่างชาติต้องนำเงินไปวางไว้กับธนาคารรับฝากทรัพย์สิน ถึงจะสามารถส่งคำสั่งซื้อหุ้นได้ ภายในช่วง 1H67 เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนให้เวียดนามมีโอกาสมากขึ้นในการขึ้นสู่ Emerging market (EM) ในการทบทวนตลาดครั้งถัดไปของ FTSE เดือน ก.ย. 67 หลังข้อกำหนดดังกล่าวถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เวียดนามไม่สามารถขึ้นสู่ EM ได้
  • STB ที่มีน้ำหนักราว 4.5% ในดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 +2.3% หลังบริษัทเผยงบเบื้องต้นของปี 66 กำไรก่อนภาษีโต 50%YoY แตะ VND9.5tn หนุนจากยอดสินเชิ่อที่เพิ่มขึ้น 11%YoY สู่ VND487tn ทั้งนี้เราเชื่อว่าในปี 67 ยอดขอสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นมากกว่าในปีนี้ หลังธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) มีแนวโน้มกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายเช่นเดิม ผ่านการลดดอกเบี้ย หลังปัญหาค่าเงินดองที่อ่อนค่าเทียบดอลลาร์ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว อีกทั้งเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ SBV กำหนด

หุ้นเด่นประจำวัน : Apple Inc. (AAPL.US)

  •  AAPL มีแผนที่จะเริ่มวางขายแว่นตา Vision Pro ในเดือน ก.พ. 67 หลังจากที่ได้เปิดตัวแว่นดังกล่าวเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ทั้งนี้บริษัทเผยว่าจะเริ่มวางขายในสหรัฐฯ ก่อนเป็นประเทศแรก
  • เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนรายของบริษัท โดย Blomberg cons. เผยรายได้เดือน ม.ค.-มี.ค. 67 อาจโต 1.5%YoY แตะ $96.3bn
- Advertisement -