KS Daily View 25.12.2023 >>> ตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัว หนุนเฟดลดดอกเบี้ย คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,390-1,410 จุด หุ้นแนะนำ ILM GPSC

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน

ต่างประเทศ: ดัชนีDJIA -0.05%, S&P 500 +0.17%, NASDAQ +0.19%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Consumer Staples (+0.69%), Materials (+0.63%), Healthcare (+0.49%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Consumer Discretionary (-0.65%)

ในประเทศ: SET Index +0.25 จุด หรือ +0.02% ปิดที่ 1,405.09 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ RCL (+7.96%), GLOBAL (+2.92%), CHG (+2.04%), PTTGC (+1.99%)เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ SABUY (-4.17%), STGT (-2.99%), NEX (-2.86%), TRUE (-2.83%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,390 – 1,410 จุด โดยตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกเมื่อวันศุกร์หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ย. ชะลอตัวลงเป็น 2.6% YoY จาก 2.9% เดือนก่อนหน้า ส่วน Core PCE เดือน พ.ย. ชะลอตัวเป็น 3.2% YoY ต่ำสุดนับแต่เดือน เม.ย. 2021 หนุนมุมมองเฟดลดดอกเบี้ยในปีหน้าอย่างเร็วสุดในเดือน มี.ค. ขณะที่ค่าเงิน USD Index อ่อนค่าต่อเป็น 101.42 จุด หนุนราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.7% DoD เป็น 2,065 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ วันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือน พ.ย. โดยตลาดคาดขยายตัว 5.15% YoY ขณะที่ตัวเลขนำเข้าคาดขยายตัว 2.75% YoY และคาดไทยขาดดุลการค้า 550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) Maersk สายเรือ Container อันดับสองของโลก ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า กำลังเตรียมที่จะกลับมาดำเนินการขนส่งในทะเลแดงอีกครั้ง โดยอ้างถึงการวางกำลังปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับรองความปลอดภัยทางการค้าในพื้นที่ทะเลแดง ทั้งนี้ปริมาณขนส่งของเรือ Container โลกผ่านทะเลแดงได้ปรับลดลงกว่า 82% จากระดับปกติในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการรายงานของ Clarkson ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือ Shanghai containerized freight index ปรับตัวขึ้น 15% WoW แตะระดับ 1,255 จุด สูงสุดนับแต่เดือน ม.ค. 2023 จากสถานการณ์ความไม่สงบในทะเลแดงจากการโจมตีของกลุ่มฮูตี ส่งผลให้สายเรือเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือส่งผลให้ระยะเวลาการเดินเรือที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการปรับเพิ่มค่าระวางจากต้นทุนการเดินเรือ และประกันภัยที่เพิ่มขึ้น จากข่าวที่ Maersk จะกลับมาเดินเรือในทะเลแดง เราแนะนำนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นเรือ Container อย่าง RCL หลังราคาปรับตัวขึ้นกว่า 20% WoW มาที่ระดับ 24.40 บาท เทียบราคาเป้าหมายของเราที่ 22 บาท

2.) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ได้เกิดเหตุรางจ่ายไฟรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วงหล่นเป็นระยะทาง 5 กม. จากสถานีแครายถึงกรมชลประทาน ทำให้รถยนต์ด้านล่างและเสาไฟฟ้าเสียหาย ทั้งนี้บริษัทผู้รับผิดชอบงานรถไฟฟ้าสายสีชมพูคือ Northen Bangkok Monorail (NBM) โดยเป็น JV ระหว่าง BTS 75% STEC 15% และ RATCH 10% นวค.KS มองเรื่องนี้ถือเป็น sentiment ลบ และอาจจะกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารในระยะสั้นได้ ส่วนในแง่ค่าใช้จ่ายคาดจะมีการบันทึกเข้ามาใน JV ก่อนแล้วค่อยได้คืนจากการเคลมประกันในภายหลัง

3.) “ไมเคิล แกลนซี” กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล เปิดเผยว่า ตลาดออฟฟิศบิลดิ้งนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากซัพพลายเก่าและใหม่ โดยมีซัพพลายสะสม 8 ล้าน ตารางเมตร เฉลี่ยมีพื้นที่ว่าง 18.8% คาดว่าภายในปี 2569 จะมีซัพพลายใหม่ สร้างเสร็จเพิ่มอีก 1.8 ล้านตารางเมตร โดยคาดว่าพื้นที่ว่างเพิ่มเป็น 30% มองเป็น sentiment ลบกับกลุ่ม Office REIT ในแง่การปรับขึ้นค่าเช่าในอนาคต

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,390-1,410 จุด ในสัปดาห์นี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของ USD หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจนในปีหน้า หนุน Funds flow ไหลเข้าลงทุนในตลาด Emerging market โดยตลาดหุ้นไทยยัง laggard ดัชนี MSCI ACWI มากกว่า 30% YTD นอกจากนี้คาดจะเห็นเม็ดเงินกองทุน Thai ESG เริ่มทยอยเข้าลงทุนหลังจบช่วง IPO และอาจเห็นการทำ window dressing ช่วงปลายปีด้วย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขส่งออกนำเข้าของไทยเดือน พ.ย. และตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท. ขณะที่ประเด็นในต่างประเทศต้องติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส รวมถึงการโจมตีเรือสินค้าของกลุ่มฮูตีที่เริ่มส่งผลกระทบต่อSupply chain โลก รวมถึงค่าระวางเรือ Container ที่เริ่มปรับสูงขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

ILM (ราคาพื้นฐาน 29.18 บาท) คาดกำไร 4Q23เร่งตัวต่อ ลุ้นทำ new high หลังตัวเลข SSSG QTD ยังเป็น double digit และภาพเดือน ธ.ค. น่าจะคล้ายกันหนุนจาก high season สาขาในจังหวัดท่องเที่ยวโตดี รวมถึงการออก Event product และ Home decorative item ที่ขายได้ดีในช่องทางonline

GPSC (ราคาพื้นฐาน 53 บาท) คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q23 จากแนวโน้มการปรับตัวลงของราคาพลังงานในปี 2024 โดยเฉพาะสัดส่วนการใช้ก๊าซในประเทศที่มีต้นทุนถูกลงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้ sentiment บวกจากการแข็งค่าของเงินบาท และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ เป็นวันหยุดคริสต์มาสในตลาดหลักทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่ไทยมีกำหนดรายงานตัวเลขยอดส่งออกสำหรับเดือนพ.ย. ตลาดคาดที่ +5.15% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +8.03%YoY ขณะที่ตัวเลขนำเข้าตลาดคาดที่ +2.75% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 10.22% YoY ขณะที่ช่วงค่ำจะมีถ้อยแถลงของ BOJ Governer Ueda
  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขอัตราการว่างงานของญี่ปุ่น (unemployment rate) สำหรับเดือนพ.ย. ตลาดคาดที่ 2.5% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ในยุโรปเป็นวันหยุดสถาบันการเงินเนื่องจากเป็นวันหยุดเปิดกล่องของขวัญ Boxing day ในส่วนของสหรัฐฯ จะมีการรายงานตัวเลข S&P Case-Shiller Home Price เดือน ต.ค. คาด +0.2% MoM และ +5% YoY
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯRichmond manufacturing index สำหรับเดือนธ.ค. ตลาดคาดที่ -6 จุด ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -5 จุด
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกของญี่ปุ่น (Retail sales) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาด +0.3% MoM เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ -1.6%MoM และติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของธปท. โดยตัวเลขการบริโภคและการลุงทุนภาคเอกชนขยายตัวในเดือนก่อนหน้าที่ 1.7%YoY และ 1.4% YoY ตามลำดับ ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ จะมีรายงานตัวเลข Pending Home Sales เดือน พ.ย. คาด +0.9% MoM และตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์คาด +210K ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +205K
  • วันศุกร์ เป็นวันหยุดชดเชยวันปีใหม่สำหรับประเทศไทย ส่วนสหรัฐฯ จะมีการรายงานตัวเลขChicago PMI เดือน ธ.ค. คาด 51 จุด (-8.6% MoM)
- Advertisement -