ขึ้นแล้ว ขึ้นอยู่ ขึ้นต่อ / 1,410–1,420 

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ขึ้นต่อในวันนี้: แรงหนุนในเชิงŞentiment จากฝั่งสหรัฐฯ ที่ปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมาท่ามกลางการจับตาปรากฏการณ์ซานต้า แรลลี่ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า สอดรับกับ CME FedWatch Tool ซึ่งให้น้ำหนัก 71% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนดังกล่าว อีกทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศใน สหรัฐฯ โดย S&P CoreLogic CS ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 4.8% y-y ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.0% y-y ในเดือนก.ย. และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้ได้กระตุ้นความเชื่อมั่นว่าศก.สหรัฐฯจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง นอกจากนี้ ความหวั่งต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงความกังวลต่ออุปทานน้ำมันจากเหตุในทะเลแดง และความตึงเครียดในตะวันออกกลางได้ผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.7% ปิดที่ $75.57 ต่อบาร์เรล ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานด้านปัจจัยภายในประเทศคาดเป็นอีกแรงหนุนเช่นกันหลังครม.มีมติต่ออายุลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองอสังหาฯ 1 ปี โดยสศค.คาดจะสนับสนุนให้ศก.ขยายตัวได้เพิ่มราว 0.5% เนื่องจากภาคอสังหาฯเป็นภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีซัพพลายเชนจำนวนมาก ทั้งธุรกิจวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง และการจ้างงาน เป็นต้น อีกทั้ง คาด SET Index โดยเฉพาะหุ้นใน SETESG จะยังคงได้แรงหนุนจากกองทุน TESG สอดรับกับนักลงทุนสถาบันที่เป็นผู้ซื้อสุทธิ 13 ใน 16 วันทำการ รวมแล้วกว่า 8.9 พันลบ. ในเดือนธ.ค. (MTD) ขณะที่หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมาตรการรัฐ อาทิ การยกเว้นค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึง Easy E-Receipt ที่จะเริ่มต้นในปีหน้า
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) ท่องเที่ยว+Spending: BA, BTG, CENTEL, CPALL, CPF, CPN, CRC, MINT, LH 2) SET50/100: ICHI, ITC, MOSHI 3) พลังงาน: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 4) SETESG: BBL, BDMS, BCH, KBANK, SCB, SCC และ 5) Selective:AMATA, AP,CK, SPALI, WHA

ปัจจัยบวก

  • SCB EIC ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกปี 67 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวที่ 3.7% โดยการส่งออกอาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นกลุ่มสินค้าหลักขับเคลื่อนการส่งออกไทยในปี 67
  • กรุมพัฒฯเผยการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพ.ย.มี 5,979 ราย เพิ่มขึ้น 3.57% y-y โดยมีทุนจดทะเบียน 2.53 หมื่นลบ. แรงหนุนจากท่องเที่ยวเป็นหลัก ทั้งปีคาดการจดทะเบียนธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 8.4-8.6 หมื่นราย และมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งอยู่ที่ประมาณ 5.5-6 แสนลบ.
  • กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬาเผยประเทศไทยมีจำนวนนทท.ต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.- 24 ธ.ค. 66 จำนวน 27.25 ล้านคน
  • ครมผ่านร่างพร.บ.งบปี 67 วงเงิน 348 ล้านลบ.ชงเข้าสภาผู้เทนฯ 3-4 ม.ค.
  • ครม.มีมติอนุมัติการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง ตามเงื่อนไขเดิมที่เคยบังคับใช้มาก่อนหน้านี้ เพียงแต่ในครั้งนี้เป็นการอนุมัตินำเข้าแบบปีต่อปี ต่างจากเดิมที่จะอนุญาตให้นำเข้ารอบละ 3 ปี

ปัจจัยลบ

  • GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากภาพดาวเทียม Cosmo-SkyMed-1 (ช่วงเย็น) วันที่ 25 ธ.ค. บริเวณภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งสิ้นประมาณ 89,027 ไร่ โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือพื้นที่ปลูกข้าว รวมทั้งสิ้น 15,688 ไร่นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมอื่นๆใน พื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรองของพื้นที่โดยรอบ
  • ไฟแนนเชียลไทม์สเผยธนาคารรายใหญ่ที่สุดของโลก 20 แห่ง ได้ปลดพนักงานลงอย่างน้อย 61,905 ตำแหน่งในปี 66 เมื่อเทียบกับการเลิกจ้างมากกว่า 140,000 ตำแหน่งในช่วงวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 50-51
  • ปธน.จีนกล่าวว่าจีนจะขัดขวางผู้ใดก็ตามทีจะแบ่งแยกใต้หวันออกจาก จีนไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง

PICKS OF THE DAY

CK BUY
  • เป้าหมาย 21.20 / 22.00 แนวรับ 19.70 / 20.00
  • งานประมูลภาครัฐปีหน้าจะเยอะกว่าปกติ: เนื่องจากมีงานค้างรอประมูลในปี 67 จำนวนมาก ทั้งรฟฟ.สายสีส้ม 1.4 แสนลบ., มอเตอร์เวย์ (โคราช) 7.7 หมื่น ลบ., รถไฟรางคู่ (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) มูลค่า 7.2 หมื่น ลบ. ทำให้คาดว่า Backlog จะขยับเพิ่มขึ้นจากสิ้นงวด 3Q66 ที่ 1.37 แสน ลบ. ขณะที่วานนี้นายกฯ เห็นชอบร่าง พรบ. งบปี 67 3.4 ล้านล้านบาท คาดเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มรับเหมา
  • คาดกำไร 4Q66 โตต่อ: GPM แนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 3Q66 ที่ 11.7% โดยแรงหนุนจากแนวโน้มดัชนีวัสดุก่อสร้างที่เริ่มลดลง ทางฝ่ายคาดกำไร 4Q66 จะอยู่ที่ 749 ลบ. (+32%q-q) และทั้งปี 66 มองกำไร 2.09 พันลบ. (+89%y-y

ITC BUY

  • เป้าหมาย 22.00 / 22.50 แนวรับ 20.50 / 21.00
  • ตัวเลขส่งออกดีขึ้น: ระดับสต๊อคลูกค้าที่ค่อยๆปรับลดลงสู่ปกติ ทำให้การส่งออกทยอยฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกอาหารสุนัขและแมว เดือน พ.ย. มูลค่าเติบโตขึ้น 2.1% จากเดือนก่อน และมูลค่าส่งออกเฉลี่ย ในช่วง ต.ค.-พ.ย. ยังสูงกว่าช่วง 3Q66
  • คาดกำไร 4Q66 พีคสุด: คาด 4Q66 รายได้โตขึ้นอีกราว 25%q-q และจะเป็นไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงสุดในปี ขณะที่ปี 67 ยังคาดหวังฐานลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และโรงงานใหม่ในที่จะเสร็จในช่วง 1H67 เพิ่มกำลังผลิตได้อีก +18.7% และเป็นระบบ Automation มากขึ้น เพื่อควบต้นทุนคุมค่าแรงได้ในอนาคต

 

 

- Advertisement -