ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ลดลง 3 จุด (-0.21%) ปิดที่ระดับ 1,410 จุด ดัชนีผันผวนและปิดลบในช่วงท้ายตลาด คาดเป็นผลจากการเปลี่ยนซีรีย์ในกระดาน TFEX ซึ่งจะยึดเอาวันทำการ 1 วัน ก่อนวันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสในการปิดหรือเปลี่ยนสัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,400 – 1,420 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ sentiment บวก คาดการณ์ FED เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ปีหน้า รวมถึงเม็ดเงินกองทุน RMF SSF TESG ช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบทีปรับตัวลง หลังมีรายงานว่าเรือขนส่งสินค้าจะเริ่มกลับมาเดินเรือในทะเลแดงนั้นกดดันต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้งแรงขายลดความเสียงก่อน Long weekend ช่วงปีใหม่จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
- GULF GPSC BGRIM TASCO EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง
- CRC CPN HMPRO GLOBAL DOHOME COM7 อานิสงส์ E-refund
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
หุ้นแนะนำวันนี้
WHA (ปิด 5.30 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 5.95 บาท) คาดยอดขายที่ดินพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้ และปีหน้าที่ 2,700 ไร่และ 3,000 ไร่ ตามลำดับ จากยอดซื้อของกลุ่ม EV car และมี Upside จากกลุ่มทุนสหรัฐเกี่ยวกับการลงทุนใน ธุรกิจ Data Center ของ Google, Microsoft และ รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla
PLANB (ปิด 8.70 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ และโตถึง 27% ในขณะที่คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดำเนินต่อไปในปี 2024 ซึ่งเราคาดว่าจะโต 31% จาก UR ที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าโฆษณา
บทวิเคราะห์วันนี้
YGG (PromptAct)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) จีนมีสัญญาณบวก ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน: สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม จีนเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 29.5% yoy สูงขึ้นจากเดือน ต.ค.ที่ขยายตัวเพียง 2.7%yoy นับเป็นการเติบโต yoy เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เป็นหนึ่งความหวังที่จะเห็นการ ฟื้นตัวทาง ศก.ของจีนในอนาคต
(+) น้ำมันดิบพลิกปิดลบคลายกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดง: น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.46 ดอลลาร์ (- 1.93%) ปิดที่ 74.11$/bbl หลัง Maersk ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก, CMA CGM ของฝรั่งเศส และ Hapag-Lloyd ของเยอรมนี ประกาศว่าจะกลับมาเดินเรือในทะเลแดงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐและชาติพันธมิตรอีกกว่า 10 ประเทศได้เปิดปฏิบัติการให้ความคุ้มครองในพื้นที่ดังกล่าว
(+/-) วันนี้ ธปท. รายงานภาวะ ศก. ไทยเดือน พ.ย. หากออกมาดีจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาด: หลังจากเมื่อเดือน ต.ค. เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการฟื้นตัว ของการบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชน เหลือเพียงภาคการผลิตที่ยังหดตัว ดังนั้นหากเดือน พ.ย. การบริโภคยังขยายตัวได้ต่อและการผลิตกลับมาฟื้นตัวจะทำให้แนวโน้ม ศก. หรือ GDP ของไทยใน 4Q23 โตในอัตราที่เร่งขึ้นจาก 3Q23 เป็น Sentiment บวกหนุนตลาด
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(-) ผู้ว่ากทม. ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร กำหนดอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ทั้ง 2 ช่วง ในอัตรา 15 บาท ตลอดสาย เริ่มมีผล 2 ม.ค. 67 เป็นต้นไป
(+) บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม
สหรัฐ
(+) สหรัฐได้ซื้อน้ำมันดิบจํานวน 3 ล้านบาร์เรลเพื่อเติมเต็มคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR)
(-) นายกรัฐมนตรีสเปนไม่เห็นด้วยที่สหภาพยุโรป (EU) จะนำกองเรือป้องกันโจรสลัด ซึ่งมีชื่อว่า Operation Atalanta ไปปกป้องเรือพาณิชย์ในทะเลแดงจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
เอเชีย
(-) จีน – กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 29.5%yoy โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 6.98 ล้านล้านหยวน ลดลง 4.4% yoy