บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

KCG Corporation (KCG)

Allowrie และ Imperial ของเราเอง

  • Action BUY (Initiate)
  • TP upside (downside) +29.2%
  • Close Dec 28, 2023 Price (THB) 8.90
  • 12M Target (THB) 11.50

What’s new?

  • เราคาดกำไรปกติใน 4Q66 ที่ 121 ลบ. (+138.8% QoQ, +9.5% YoY) หนุนจากจากการเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้น หนุนธุรกิจในกลุ่ม HoReCa ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ KCG
  • ขณะที่ GPM คาดอยู่ที่ 30.5% ซึ่งจะสูงกว่า GPM ทั้งปี 2566 ของเราที่ 29.1% หนุนจากต้นทุนการผลิตที่คาดปรับตัวลงต่อ ประกอบกับ U-rate ที่สูงขึ้นล้อไปกับยอดขายที่เติบโต

Our view

  • คาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 276 ลบ. (+38.4% YoY) และในปี 2567 คาดเติบโตต่อเป็น 325 ลบ. (+18.0% YoY) จากการบริโภคในประเทศที่สูงขึ้น และการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ GPM ปี 2566-2567 คาดอยู่ที่ 29.1% และ 29.5% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลงประกอบกับ U-rate ที่สูงขึ้น
  • เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” มีราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 11.50 บาท อิงวิธี DCF (WACC ที่ 7.6%, Ke ที่ 7.6% และ Terminal Growth ที่ 2.5%) อิง PER67 ที่ 19.3 เท่า

อร่อย คุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (KCG) เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและขนมตะวันตก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม อาทิ นมและเนย โดยเรามองเป็นบริษัทที่มีโอกาสในการเติบโตได้สูงจาก 1) ตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทคาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 2) แผนการออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 SKUs ต่อปี และ 3) การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

แนวโน้มกำไรปกติใน 4Q66 คาดทำระดับสูงสุดของปี

เราคาดกำไรปกติใน 4Q66 ที่ 121 ลบ. (+138.8% QoQ, +9.5% Yoy) หนุนจาก 1) การเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นหนุนธุรกิจในกลุ่มร้านอาหารและโรงแรม (HoReCa) ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และ 2) เป็นช่วง High season ของการจัดงานมงคลต่างๆ อาทิ งานมงคลสมรสที่นิยมให้คุกกี้เป็นของขวัญ อีกทั้งสินค้าคุกกี้ยังเป็นของฝากยอดนิยมของคนไทยสำหรับเทศกาลปีใหม่ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 30.5% ซึ่งจะสูงกว่าประมาณการปี 2566 ของเราที่ 29.1% หนุนจากต้นทุนการผลิตที่คาดปรับตัวลงต่อ ประกอบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดสูงขึ้นเป็น 60.0% จาก 53.0% ใน 3Q66

กำไรปกติปี 2566 โตเด่น และกำไรปี 2567 คาดเติบโตต่อแม้ฐานสูง

เราคาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 276 ลบ. (+38.4% YoY) ทำ New High โดยสาเหตุหลักมาจาก 1) การเติบโตของตลาดในทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทหนุนจากความนิยมอาหารตะวันตกที่เพิ่มขึ้น 2) การออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 SKUs และ 3) การเริ่มรับรู้รายได้จากการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในอินเดียและการเปลี่ยน Distributor ในฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 29.1% จาก 28.7% ในปี 2565 โดยสาเหตุหลักมาจากราคาวัตถุดิบหลักที่เริ่มปรับตัวลง อาทิ น้ำมันปาล์มและน้ำมันเนย ประกอบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดสูงขึ้นเป็น 54.3% จาก 52.3% ในปี 2565 และคาดกำไรจะสามารถเติบโตต่อเป็น 325 ลบ. (+18.0% Yoy) ในปี 2567 หนุนจากกำลังซื้อในประเทศที่สูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ประกอบกับการรับรู้รายได้จากอินเดีย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกงเต็มปี และการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ และคาดอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้นต่อเป็น 56.0%

เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 11.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะยาวของ KCG โดยประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF ( WACC 7.6%, Ke 7.6% และ T.G. ที่ 2.5%) ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 11.50 บาท คิดเป็น PER67 ที่ 19.3 เท่า โดยราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER66-67 เพียง 17.6 เท่า และ 14.9 เท่าตามลำดับ เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” เชิงกลยุทธ์เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาเป็นโอกาสในการเข้าสะสม

- Advertisement -