บล.ฟิลลิป:
เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ – WORK
ปี 2567 มีรายการใหม่และเพิ่มรายได้ด้านอื่น
Key Point
4Q66 กำไรจะอ่อนตัวลง q-q และ y-y จากงบโฆษณาอ่อนตัวลงขาดทุนจากการยกเลิกคอนเสิร์ต และค่าใช้จ่ายปลายปี ปี 2567 ประกาศเพิ่มรายการใหม่ แต่แนวโน้มการใช้งบโฆษณาผ่านทีวีอาจชะลอตัว คาดจะเห็นรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาช่วยชดเชย ทั้งคอนเสิร์ต/อีเว้นท์ และภาพยนตร์รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น และกิจการร่วมค้าที่มีแนวโน้มดขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 13 บาท
4Q66 กำไรลดลง 4-9. yy ตามเม็ดเงินโฆษณาลดลงและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
4Q66 คาดรายได้โฆษณามีแนวโน้มอ่อนตัวลง q-q ตามฤดูกาลเช่นเดียวกับทีวีช่องอื่น ๆ เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาชะลอตัวใน ธ.ค. ที่มีวันหยุดเทศกาล แต่คาดว่าจะมีรายได้จากคอนเสิร์ละครเวทีที่โตขึ้น มีการจัดละครเวที “มนต์รักลูกทุ่ง ทองกราวเดอะมิวสิคัล” ในวันที่ 2-3, 9-11 ธ.ค. มี 6 รอบการแสดง และคอนเสิร์ต เช่น 2023 WOODZ WORLD TOUR ‘OO-LI and’ in Bangkok – 1 รอบ และ HIKING BECKY DAY FAN CAMPING – 1 รอบ แต่จะขาดทุนจากการยุกเลิกคอนเสิร์ตของ LE SSERAFIM อีกทั้ง ต้นทุนมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการจัดงานละครเวที่/คอนเสิร์ตที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าทีวี และจะมีค่าใช้จ่ายปลายปีเกี่ยวกับโบนัสพนักงาน ซึ่ง WORK จะมีการจ่ายปีละครั้งในไตรมาส 4 ทำให้มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะลดลง q-q และ y-y
ปี 2567 ประกาศผัง Workpoint TV เพิ่มรายการใหม่ ปรับเปลี่ยนเวลาออกอากาศ
WORK ได้แถลงการปรับผังใหม่กลาง ธ.ค. 66 มีเพิ่มรายการและเปลี่ยนเวลาออกอากาศ รายการใหม่ “ปัญญา 5 ดาว” ออกอากาศจันทร์-พุธ เป็นรายการเมนูเด็ดทั่วไทย ช่วง 19.00 น. แทนละครที่เคยออกให้ช่วงดังกล่าว และย้ายละครไปเป็นเสาร์-อาทิตย์ ช่วง 20.05 น. ปีนี้มีละครที่ออกอากาศทั้งหมด 5 เรื่อง “นางทาสหัวทอง-บัลลังก์ลูกทุ่ง-บ้านผูกวิญญาณะเมืองลับแล-เพลงลำคำเขื่อนแก้ว” รายการใหม่อื่น ๆ เช่น “FACE OFF แฝดคนละฝา” วันอังคาร มาแทน “แฟนฉัน วัดป่ะล่ะ” “GEN WIT อัจฉริยะ พันธุ์ใหม่” แข่งขันความรู้ของนักเรียนม.ปลาย, “GATE 23” เป็นรายการเรียลลิตี้ ค้นหาไอดอลคนรุ่นใหม่, “MJ หม่ำ แจ๊ส โชว์” วาไรตี้ทอลก็โชว์ และรายการต่อเนื่องจากซีชั่นก่อนหน้า เช่น “ชิงช้าสวรรค์ 2024” วันศุกร์-เสาร์, “เพลงเอก ซีซั่น 3” วันพุธ และ “หมอลำไอดอล 2” ซึ่งหลายรายการน่าจะรับความ นิยม โดยเฉพาะซีซั่นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ละครมีออกอากาศทาง Netflx พร้อมกับทางทีวี ถือเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
คาดจะเห็นรายได้จากธุรกิจอื่นมากขึ้น
1) คอนเสิร์ต/อีเว้นต์ยังคงมีต่อเนื่อง โดยต้นปีนี้ “BEX : กรุงเทพ เอ็กซิบิชั่น” ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะมีการจัดคอนเสิร์ต 3งาน MARK TUAN The Other Side’ ASIA TOUR 2024 in Bangkok วันที่ 20-21 ม.ค., 2024 KIM SEONHO ASIA TOUR in BANGKOK <Color+Full> วันที่ 3 ก.พ. และ 4EVE Concert ‘NOW OR NEVER’ Live at Impact Arena วันที่ 10 ก.พ. ซึ่ง 4EVE ได้ขายบัตรหมดไปแล้วคาด BEX จะมีจัดคอนเสิร์ตอีกโดยเฉพาะจากศิลปินเกาหลีที่ในปี 2556 ได้จัดหลายงาน
2) ธุรกิจผลิตซีรี่เข้า OTT แพลตฟอร์ม “จังก้าพลัส สตูดิโอ” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยปีก่อนมีการผลิตซีรี่ส์เข้า OTT แพลตฟอร์มแล้ว
3) การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าถือหุ้นใน “โคตรคูล” ที่ 49% ทำธุรกิจผลิตและออกอากาศรายการในช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งมีรายการดัง “จีบหนูหน่อย-โต้วาเทย-CAMP ปลิ้น” โดยโคตรคูลในปี 2565 มีรายได้และกำไรที่ 112 ลบ. และ 18.18 ลบ. และ WORK มีแผนผลิตรายการออนไลน์ประเภทอื่น ๆ
4) เข้าถือหุ้นเพิ่มใน “สกายบ็อกซ์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” จาก 45% เป็น 90% ทำธุรกิจบริหารศิลปิน แม้ยังมีผลขาดทุน เพราะเพิ่งเริ่มธุรกิจในปี 2565 แต่คาดจะดีขึ้น
5) T-POP กิจการร่วมค้าถือหุ้น 60% มีผลประกอบการดีขึ้น จากความสำเร็จของวง 4EVE และ ATLAS ปีนี้จะมีประกวดหาศิลปินเพิ่ม
6) ร่วมทุนกับ SAPPE ตั้งบริษัท “โวป” โดย WORK ถือหุ้น 40% ทำธุรกิจในการผลิต วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้า เช่น “ทอรีน คอฟฟี่” จากก่อนหน้าที่ออก “ลูกอมครูเพ็ญศรี”
7) ร่วมทุนกับ MAJOR ถือหุ้นฝ่ายละ 50% ใน “คาร์แมน ไลน์ สตูดิโอ” ในการผลิตภาพยนตร์ 3 เรื่อง หลังจาก WORK ไม่ได้มีทำธุรกิจนี้นานแล้ว ซึ่งการขยายธุรกิจด้านอื่น ๆ มากขึ้นจะมาช่วยชดเชยกับรายได้โฆษณาที่อาจอ่อนตัวลงตามคาดการณ์ของมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ ที่คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีในปีนี้ยังหดตัวลง 2% แม้ในภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณายังโตที่ 4%
ปรับราคาพื้นฐานเป็น 13 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
จากแนวโน้มกำไรใน 4Q66 ที่คาดจะอ่อนตัวลง q-q จากค่าใช้จ่ายปลายปี จึงปรับกำไรในปี 2566 ลงเล็กน้อยเป็น 101 ล้านบาท และในปี 2567 คาดกำไรที่ 190 ล้านบาท แม้โฆษณาทางทีวีอาจมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่ WORK ก็มีการขยายธุรกิจด้านอื่น ๆ มากขึ้นจะเข้ามาช่วยชดเชยและสร้างการเติบโตได้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 13 บาท
ความเสี่ยง
- ภาวะเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อเม็ดเงินโฆษณา
- การแข่งขันในอุตสาหกรรมสูง
- การแข่งขันจากสื่ออื่น ที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดจากสื่อโทรทัศน์
