บล.บัวหลวง:
Bangkok Chain Hospital (BCH TB / BCH.BK)
BCH – โควต้าใหม่จากประกันสังคม หนุนภาพการเติบโตปี 2024
การเพิ่มโควต้าประกันสังคมจะส่งผลต่อโรงพยาบาลของ BCH อย่างไร? ผู้บริหารคาดการณ์ว่าโรคไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่จะเพิ่มขึ้นหรือไม่? และหลังจากจัดการกับแรงกดด้นจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/66 แล้ว โรงพยาบาลใหม่จะเป็นอย่างไรในไตรมาส 4/66? เราได้รับเกียรติจากผู้บริหาร BCH เข้าร่วมงาน “BLS Thai Corporate Day 2024” ในวันที่ 9 ม.ค. นี้ เพื่อมาให้ข้อมูลกับเรา ห้ามพลาด!
การเพิ่มโควต้าประกันสังคมจะส่งผลต่อโรงพยาบาลของ BCH อย่างไร
สำนักงานประกันสังคมมีการเพิ่มโควต้าโรงพยาบาลในกลุ่ม BCH เป็น 1.86 ล้านรายในปี 2567 จาก 1.54 ล้านรายในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 20% YoY BCH ได้รับโควตาเพิ่มเติมจากสำนักงานประกันสังคม จำนวนกว่า 314,000 ราย ส่วนใหญ่สำหรับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์
หลักการสำคัญเบื้องหลังการเพิ่มโควต้าคือทุกๆ 100 เตียงที่เพิ่มขึ้นสามารถรองรับโควต้าประกันสังคมเพิ่มได้ 100,000 เตียง นอกจากนี้ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ยังได้รับการรับรองจาก Joint Commission International (JCI) หรือเทียบเท่า HA III ส่งผลให้มีการเพิ่มโควต้าประกันสังคมในปี 2567 โดยเพิ่มขึ้นจาก 138,000 ราย ไปเป็น 179,000 ราย ทั้งนี้ เรามาประเมินผลกระทบจากประกันสังคมได้ในงาน BLS Thai Corporate Day 2024 ในวันที่ 9 ม.ค. นี้
ผู้บริหารคาดการณ์ว่าไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่จะพุ่งสูงขึ้นหรือไม่ระหว่างเดือน ม.ค.-ธ.ค. 2566
กระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกที่ 153,734 ราย คิดเป็น 3.4 เท่าของจำนวนที่บันทึกไว้ใน ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกัน มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 467,899 ราย เพิ่มขึ้น 5.9 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกัน ในปี 2565 ตัวเลข ดังกล่าวแสดงถึงแนวโน้มการระบาดรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาส 3/66 เนื่องจากเป็นฤดูฝน BCH เตรียมรับมือกับการเพิ่มขึ้นของโรคไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลในไตรมาส 4/66 อย่างไรรายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกจะนำเสนอในงาน Thai Corporate Day.
หลังเจอแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/66 แล้วโรงพยาบาลใหม่จะเป็นอย่างไรในไตรมาส 4/66 ?
ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่สามแห่ง (เกษมราษฎร์อรัญประเทศ,เกษมราษฎร์ปราจีนบุรี และ เกษมราษฎร์เวียงจันทน์) ปรับตัวดีขึ้น โดยมี EBITDA (ไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 20 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 (เทียบกับ 15 ล้านบาทในไตรมาส 2/66) ผู้บริหารคาดว่า เกษมราษฎร์เวียงจันทน์และเกษมราษฎร์อรัญประเทศจะรายงานกำไรได้ภายในปี 2567 ในขณะที่ เกษมราษฎร์ปราจีนบุรีจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายในปี 2568 เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเพิ่มฐานสมาชิกที่จดทะเบียนประกันสังคม (จากปัจจุบัน 3 หมื่นราย) หลังจากที่ BCH เพิ่ม ทุนในบริษัทย่อยในประเทศลาวเพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงิน เรามองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66ของ BCH จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง QoQ เนื่องจาก BCH บันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 54 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการบริหารในไตรมาส 4/66 จะลดลงอย่างมากและอัตรากำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้น
ในงาน Thai Corporate Day 2024 เราได้รับเกียรติจาก
- ศ.ดร.นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)
- คุณวิมลมาลย์ กฤษณะกลิน – รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์
