น้ำมันหนุน แต่ระวังหุ้นกู้ / 1,420-1,435 

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET วันนี้แกว่งแคบ: แรงหนุนจาก 1) ราคาน้ำมัน WTI พื้นตัวทดสอบระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลสงครามในตะวันออกกลางอาจรุนแรงขึ้น หลังสหรัฐโจมตีทางอากาศต่อกรุงแบกแดดของอิรักเพื่อตอบโต้อิรักที่สนับสนุนกลุ่มฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าผ่านทะเลแดง ทำให้ทางฝ่ายมองจะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานซึ่งเป็น Big Cap 2) แรงเก็งกำไรในหุ้นแบบ Selective ที่คาด่ว่าจะเผยผลประกอบการปี 67 เชิงบวก รวมถึงแรงเก็งกำไรในหุ้นก่อนจ่ายเงินปันผล รวมถึงแรงหนุนจากหุ้นธีม January effect และ 3) แรงหนุนจากความคืบหน้างบประมาณปี 67 และนอกจากนี้ยังต้องติดตามความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล หลังกฤษฎีกาส่งความเห็นเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ ผ่านมา ซึ่งนายกฯขอ 2 วันในการแถลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่ม Spending และหุ้นที่เกี่ยวเนื่อง นอกเหนือไปจากโครงการ EasyE-Receipt ที่เป็นแรงกระตุ้นศก.อยู่ขณะนี้ ส่วนแรงกดดันต่อดัชนีวันนี้ คาดมาจาก 1) ความผันผวนของตลาดต่างประเทศ จากความไม่มั่นใจต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐเผยการการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.เพิ่มมากกว่าคาด 1.70 แสนตำแหน่ง และครั้งก่อนที่ 1.73 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 2.16 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนธ.ค. ยังดีกว่าคาด 3.8% สู่ระดับ 3.7% 2) ITD น่าจะปรับตัวลงก่อนรับข่าวแถลงการขอชำระเพียงดอกเบี้ยหุ้นกู้ และเลื่อนชำระคืนเงินต้น 2 ปี กับหุ้นกู้ ITD24A ที่จะครบกำหนดใน 15 ก.พ.นี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีภาระต่อหุ้นกู้อีก 4 รุ่น รวมแล้วมูลค่าสิ้นปี 69 กว่า 1.45 หมื่นล้านบาท 3) บาทที่เริ่มพลิกอ่อนค่าทดสอบ 34.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กดดันต่อภาพ Fund-flow เช่นเดียวกับต่างชาติที่ขายวันศุกร์กว่า 3.1 พันลบ. สัปดาห์นี้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย คาดฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนพ.ย.ที่ 60.90 จุด
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Spending: AEONTS, CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, ONEE 2) งบประมาณปี 67: AMATA, CK, ROJNA, STEC, WHA 3) January Effect: KBANK, STA, KTC, 4) เก็งหุ่นก่อนปันผล: SCB, TISCO, TCAP 5) Selective: SISB, ICHI, PTG

ปัจจัยบวก 

  • Hallax เผยราคาบ้านในอังกฤษขยายตัว 1.7% y-y ในเดือนธ.ค. และเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 ซึ่งเป็นสัญญาณเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษเริ่มมีเสถียรภาพ หลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้น
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียืนยันสำนักงานประกันสังคมเก็บเงินสมทบกองทุนไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ไม่มีการปรับเป็น 875 บาท
    ต่อเดือน
  • ญี่ปุ่นเผยยอดขายรถใหม่ปี 66 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5ปีที่ 13.8%yy หลังปัญหาขาดแคลนซิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกได้คลีคลายลง
  • กรมธุรกิจพลังงานเผยปริมาณการใช้น้ำมันในไทยเฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.66) อยู่ที่ 152.24 ล้านลิตรต่อวัน(+0.9%y-1) จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหนุนการใช้น้ำมันอากาศยานเพิ่ม 56.1%yy และดีเซลที่เพิ่มขึ้น
    5.2%у-у

ปัจจัยลบ

  • บริษัทเดินเรือรายใหญ่ของเดนมาร์ก Maerskประกาศเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 4 จาก 5 ลำจากเดินทางผ่านคลองสุเอชเป็นอ้อมทวีปแอฟริกา เพื่อเลียงการโจมตีของกบฏฮูติ
  • การเลือกตั้งไต้หวัน 13 ม.ค.นี้ นาย Lai Ching-Te จากพรรค DPP ซึ่งชูนโยบายต่อต้านจีน ยังมีโพลล์ขึ้นนำด้วยคะแนน 32% เป็นแรงกดดัน ด้านภูมิรัฐศาสตร์

PICKS OF THE DAY

KBANK BUY
  • เป้าหมาย 140.00 / 145.00 แนวรับ 133.00
  • คาดกำไรโตเด่นสุด y-y: จากการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลงมาก และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คาดว่าจะทำให้ KBANK มีกำไร 4Q66 9.7 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 204.6% y-y เป็นระดับที่เด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
  • สินเชื่อเริ่มฟื้นตัว คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น: สินเชื่อในเดือน พ.ย. ฟื้นตัวขึ้น 0.4% m-m ถึงแม้ว่าทั้งปีจะยังคงติบลบอยู่ก็ตาม แต่คุณภาพสินทรัพย์ก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก NPL ใน 3Q66 ที่ลดลง สวนทางกับกลุ่มที่ส่วนใหญ่มี NPL เพิ่มสูงขึ้น

AMATA BUY

  • เป้าหมาย 26.00 / 27.00 แนวรับ 24.50
  • เลือกตั้งไต้หวันหนุนย้ายฐาน: โดยจะจัดเลือกตั้ง 13 ม.ค. นี้ ซึ่งนาย Lai Ching-Te จากพรรค DPP ชูนโยบายต่อต้านจีน ยังมีโพลล์ขึ้นนำกว่า 32% เป็นแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ ช่วยหนุนการย้ายฐานการผลิตสู่นิคมในไทย-เวียดนามที่อมตะมีอยู่ ขณะที่การแถลงงบฯปี 67 ของรัฐบาลจะช่วยหนุน Sentiment ระยะสั้น
  • คาดงบ 4Q เติบโตต่อ: จากรายได้ค่าสาธารณูสาธารณูปโภคที่เติบโตตามอุปสงค์ของสินค้าในนิคม โดยงวด 9M66 ทำรายได้ 2,617 ลบ. (+30.5%y-y) ด้านยอดขายที่ดินคาดปีนี้เติบโตต่อ โดยในงวด 9M66 มีรายได้ 3,166 ลบ. (+100.5%y-y)

 

 

 

- Advertisement -