บล.กรุงศรีฯ:
WHA CORPORATION (WHA TB/ WHA.BK)
WHA – ยอดขายที่ดินปี 2023 ทำสถิติสูงสุด! (TP Bt5.40, BUY)
กลุ่มอุตสาหกรรม | อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง |
หุ้น | WHA |
มูลค่าพื้นฐาน | 5.40 |
คำแนะนำ | BUY |
WHA บรรลุเป้าปี 2023 ยอดขายที่ดินทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,700-2,800 ไร่ สัญญาเช่า WH และ RBF 180,000 ตร.ม. และรายได้จากการขายสินทรัพย์ 3.6 พันลบ. (คาดกำไร 570 ลบ.) เราประมาณการยอดขายที่ดิน 2,400 ไร่ และ 150,000 ตร.ม. สัญญาเช่า WH และ RBF ปี 2024 เราปรับลดกำไร FY23F-FY25F ลง 12-20% สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.4 บาท (สิ้นปี 2024) และมีอัพไซด์ 0.5 บาท จากการลงทุน 50% ใน GC Logistics Solution และโครงการโซล่าร์ฟาร์ม เราเชื่อมีอัพไซด์ยอดขาย ที่ดินเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง คงคำแนะนำ ซื้อ
ผลการดำเนินงานทำได้ตามเป้าปี 2023
WHA ขายที่ดิน 2,700-2,800 ไร่ (2,000-2,100 ไร่ในประเทศไทย และ 600-700 ไร่ใน เวียดนาม) และยอดโอนคาดใกล้เคียงที่เราประมาณการ 2,158 ไร่ ลูกค้าหลัก ได้แก่ Foxconn, Sunny Electronics และ Changan บริษัทได้เซ็นสัญญาโลจิสติกส์ 150,000 ตร.ม. ในประเทศไทย (BTS 100,000-110,000 ตร.ม. และ RBF เช่าสุทธิ 40,000- 50,000 ตร.ม.) และ 35,000 ตร.ม. ในเวียดนาม เราเห็นอุปสงค์ RBF อย่างมากจาก อุตสาหกรรมสนับสนุนซึ่งบริษัทมียอดเป็นสัญญาใหม่สูงถึง 70,000 ตร.ม. ใน 4Q23 WHA ขาย WH ให้กับ WHART 3.6 พันลบ. (สูงกว่าเป้า 2%)
ยอดขายที่ดินและยอดเซ็นสัญญาเช่าใหม่คาดลดลงในปี FY24F
คาดยอดขายที่ดิน 2,400 ไร่ (ลดลงจากเดิมคาด 3,000 ไร่เพราะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนราย หนึ่งเปลี่ยนจากซื้อที่ดินเป็นการเช่าโรงงาน) เราจึงคาดยอดขายที่ดิน 1,700 ไร่ในไทยและ 700 ไร่ในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ยังมีอัพไซด์หากสามารถปิดดีลดาต้าเซ็นเตอร์และ/หรือ ผู้ผลิต EV รายใหญ่อื่นๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์จากอุตสาหกรรมสนับสนุน, อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนอีกด้วย เราคาด ยอดเซ็นสัญญาโลจิสติกส์ 150,000 ตร.ม.ในประเทศไทย และมีอัพไซด์จากโครงการในต่างประเทศ
ปรับประมาณการ
เราปรับลดกำไรธุรกิจหลัก 15% เป็น 4.0 พันลบ.ในปี FY23F สะท้อนการปรับลดอัตรา กำไรจากการขายสินทรัพย์ (เป็น 25% จาก 36%) สำหรับสินทรัพย์สิทธิการเช่าอายุ <30 ปีและกำไรส่วนของพื้นที่ที่มีการรับประกันรายได้ (ประมาณ 100 ลบ.) ซึ่งจะ บันทึกในปี FY24F หลังปล่อยเช่าได้ เราปรับลดกำไรปี FY24F ลง 12% เป็น 4.6 พัน ลบ. หลังลด GPM ของ IE ลง 4.8% เป็น 51.2% (53% vs 60% สำหรับไทย, 45% vs 40% สำหรับเวียดนาม) และเรายังปรับลดกำไรปี FY25F ลง 21% เป็น 4.8 พันลบ. หลังจากปรับรายได้จากขายสินทรัพย์และอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดิน กำไรธุรกิจ หลักจะลดลง 4% yoy ในปี FY23F (ไม่มีกำไร 345 ลบ.จากการขายดาต้าเซ็นเตอร์) แต่ จะเติบโต 13% ในปี FY24F (กำไรสูงขึ้นจาก IE, ขายสินทรัพย์ [5.6 พันลบ.] และไฟฟ้า และ Duong River) และ 5% ในปี FY25F เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 4Q23 จะลดลง 30% yoy แต่เพิ่มขึ้น 181% qoq เป็น 2.0 พันลบ. เนื่องจากการโอนที่แข็งแกร่ง (1,150 ไร่) และกำไร 570 ลบ.จากการขายสินทรัพย์ เราคาดเงินปันผลงวดสุดท้าย 0.1 บาท/หุ้น หรืออัตราผลตอบแทน 1.9% ประกาศผลประกอบการวันที่ 23 ก.พ.