เดินหน้าทำต่อ / 1,410-1,425
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แกว่งตัว Sideways: โดยได้ Sentiment หนุนจากฝังสหรัฐฯ สอดรับกับตลาดสหรัฐฯทั้ง 3 แห่งที่ปิดในแดนบวก ท่ามกลาง US Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี ที่ร่วงลงทดสอบระดับ 4.3% และ 3.96% ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นแรงหนนต่อ SET Index เช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอิเล็กฯ ขณะที่หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง คาดได้ Sentiment หนุนเพิ่มเติมจากความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet หลังรมว.คลังเผยรัฐบาลได้รับคำตอบจากกฤษฎีกาโดยยืนยันว่าสามารถออกพ.รบ.กู้เงิน 5 แสนลบ. เพื่อใช้ในโครงการได้ โดยเป็นไปตามอำนาจของครม.และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน Digital Wallet ที่จะออกกฎหมายกู้เงินดังกล่าวมาใช้ในโครงการ และต้องเป็นไปตามมาตรา 53 และ 57 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้ รมว.คลังมั่นใจจะเดินหน้าโครงการต่อ และคาดว่าจะคิ๊กออฟโครงการได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดี มองทางขึ้นของ SETIndex จำกัด โดยคาดหุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง 4.1% ปิดที่ 570.77 ต่อบาร์เรล หลังจากซาอุดี อารามโค ประกาศปรับลดราค่าน้ำมันดิบ Aralb Light ที่จำหน่ายให้แก่ตลาดเอเชียลง $2 ต่อบาร์เรล เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาด ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ส่งออกน้ำมันและความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันล้นตลาด สอดรับกับ Reuters ซึ่งเผยว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC+ ในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นอีก 7 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้กำลังการผลิตรวมปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 27.88 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ มองปัญหาในภาคอสังหาฯของจีนจะยังคงเป็น Sentiment ทางลบที่กดดัน SET Indexโดยยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของธนาคารเงาในจีน หลังจากมีรายงานว่า Zhongzhi Enterprise Group ได้ยี่นล้มละลายแล้ว จากปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก หลังมีการปล่อยกู้หลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่ภาคอสังหาฯ ของจีน
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) Spending:BJC, CPALL, CPAXT, HMPRO, OSP, TNP 2) รับเหมา: CK, STEC 3) ย้ายฐาน: AMATA, WHA 4) Anti-com.: SCC, SCCC, TOA 5) Dividend: KKP, LH, OH, SAT, SC, SIRI, SPALI, TISCO, TTW และ 6) Selective: DELTA, KCE, MTC ,SAWAD
ปัจจัยบวก
- ก.คลังเผยก.คลังธปท.และก.ล.ต.ได้ติดตามสถานการณ์หุ้นกู้ครบกำหนด ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องการชำระอย่างใกล้ชิด ซึ่งเท่าที่ประเมินมีเพียงบริษัทเดียวที่มีสัญญาณดังกล่าว แต่ในส่วนบริษัทอื่นยังไม่มี อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะออกมาตรการมาดูแลในเวลาที่เหมาะสม หากเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว
- แม้อัตราเงินเฟ้อทัวไปจะติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน แต่ Krungthai COMPASS ประเมินว่าศก.ไทยยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจาก 1) ภาครัฐมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง และ 2) ราคาสินค้าบางรายการขยายตัวชะลอลง เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งระบายสต๊อกสินค้า และ/หรือ อุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น
- เยอรมนีเผยการส่งออกเพิ่มขึ้น 3.7% m-m ในเดือนพ.ย.66 สูงกว่าตลาดคาดที่ปรับตัวขึ้น 0.3% m-m และพลิกจากที่หดตัว 0.4% m-m ในเดือนต.ค.66 เนื่องจากอุปสงค์ใน EU ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยลบ
- ญี่ปุ่นเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนหดตัว 2.9%y-y ในเดือนพ.ย.66 ซึ่งหดตัวรุนแรงกว่าตลาดคาดจะหดตัว 2.3% y-y และปรับตัวแย่ลงจากการหดตัว 2.5% y-y ในเดือนต.ค.66
- REC เผยผลการสำรวจว่านายจ้างชาวอังกฤษได้ปรับขึ้นค่าแรงและ ยังคงมีการจ้างงานในเดือนธ.ค.66 อย่างไรก็ดี BOE อาจมองว่าข้อมูล ดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในตลาดแรงง้านกำลังปรับตัวสูงขึ้น
- ทางการจีนเผยว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงของจีนตรวจสอบพบว่าหน่วยสิบราชการลับของอังกฤษหรือ M16 ใช้ชาวต่างชาติรายหนึ่งในการรวบรวมความลับและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจีนให้กับอังกฤษ
PICKS OF THE DAY
CK BUY
- เป้าหมาย 23.50 / 24.00 แนวรับ 22.20
- งานประมูลภาครัฐปีนี้มีมาก: จากมีงานค้างรอประมูลในปีนี้จำนวนมาก ทั้งรฟฟ.สายสีส้ม 1.4 แสนลบ., มอเตอร์เวย์ (โคราช) 7.7 หมื่น ลบ., รถไฟรางคู่ (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) มูลค่า 7.2 หมื่น ลบ. ทำให้คาดว่า Backlog จะขยับเพิ่มขึ้นจากสิ้นงวด 3Q66 ที่ 1.37 แสน ลบ
- ปัญหาหุ้นกู้คู่แข่งช่วยลดการแข่งประมูล: โดยทางฝ่ายมองอาจทำให้คู่แข่งขาดคุณสมบัติเข้าร่วมประมูลบางโครงการ ซึ่งจะเป็นผลดีด้านการแข่งประกวดราคาให้รุนแรงลดลง กอปรกับดัชนีวัสดุก่อสร้างที่ลดลงต่อเนื่อง ทางฝ่ายมองจะช่วยให้ GPM ฟื้นตัวต่อจาก 3Q66 ที่ 11.7% และคาดกำไร 4Q66 ที่ 749 ลบ. (+32%q-q) และทั้งปี 66 มองกำไร 2.09 พันลบ. (+89%y-y
CPALL BU
- เป้าหมาย 57.00 / 59.00 แนวรับ 53.50
- ปัจจัยหนุนเยอะ: รับ Sentiment เชิงบวก จากคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวสู่ระดับ 34.5-35 ล้านคนในปี 67 จาก 28 ล้านคนในปี 66 ขณะที่มาตรการรัฐอย่าง Easy e-Receipt และ ความคืบหน้ามาตรการ Digital Walle
- คาด SSSG ปี 67 โตต่อ พร้อมขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ : CPALL ชี้ SSSG ในปี 67 จะโต 3% และหากเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่คาด จะส่งผลบวกต่อ SSSG เพิ่มผ่านการปรับขึ้นราคาสินค้า และวางแผนลงทุนเพิ่ม 4 พันล้านบาท เพื่อขยายสาขาอีก 700 สาขาในไทย และ 30-40 สาขาในกัมพูชา ทำให้มีจำนวนสาขารวมในกัมพูชากว่า 110-120 สาขา