Our View? “มีโอกาสรีบาวน์”
ภาพตลาดยังอยู่ในกรอบ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,409 และแนวต้านที่บริเวณ 1,436 จุด โดยตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความหวังในโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้เพิ่มขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่นอายุ 10 ปี (10 Year US-Bond Yield) ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.0% ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างมาก ตอบสนองภาพที่ตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งเป็นไปทางเดียวกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ที่อ่อนตัวลงมาอีกครั้งอยู่ที่ 1023 หลังจากรีบาวน์ขึ้นไป สูงสุดที่ 103.1 จุด
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. เดือน ก.พ. ลดลง 3.0 USD/bbl หลังจากชาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันครั้งใหญ่ และกลุ่มโอเปกปรับเพิ่มการผลิต ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอ และภาวะน้ำมันล้นตลาด กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ยังคงต้องจับตาความไม่สงบในแถบทะเลแดง หลังจากหลายสายการเดินเรือประกาศระงับการเดินทางชั่วคราว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอีกครั้ง หากสถานการณ์มีความ รุนแรงมากขึ้น
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นายกรัฐมนตรีเปิดเผยไทย-จีน จะยกเลิกการใช้วีซ่าถาวรถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. มองจะช่วยกระตุ้นความคาดหวังในการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, AWC, ERW, SPA และ EKH)
เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ครม. มีมติเห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย รวมทั้งการออกมาตรการ Easy E-Receipt สำหรับการหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ.’67 คาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วง 1Q’67 เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น HMPRO, ILM
ทั้งนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออก จากการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ของไทยออกมาขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนการส่งออกของไทยกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยยังขยายตัวได้ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม คาดได้รับแรงหนุนจากการจบวงรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้การบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มส่งออกเกษตร, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ICHI และ SAPPE
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “ILM”
- เรามอง ILM ได้อานิสงส์บวกจากมาตรการรัฐ เช่น นโยบาย “Easy E-Receipt” นอกจากนี้ยังรับรู้พื้นที่เช่า Little Walk กรุงเทพ-กรีฑา เต็มปี หลังเปิดเมื่อเดือน ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่เช่าปัจจุบันขยับเพิ่มขึ้นเป็น 9.5 หมื่นตรม. และ 2H/67 คาดจะเปิดสาขา ILM เพิ่ม 2 แห่ง (สาขาสระบุรี & รัตนาธิเบศร์) และ Little Walk อีก 2 โครงการ
- กลยุทธ์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท (P/E = 17x)
