บล.บัวหลวง:

Agro & Food – น้ำตาล: ปรับลดความคาดหวังต่อราคาน้ำตาลโลกในปี 2567 ลงจากเดิม (NEUTRAL)

เรามีมุมมองปัจจุบันต่อราคาน้ำตาลโลกที่ลดลง จากสมมติฐานเดิมสำหรับในปี 2567 เนื่องจาก: 1) เรามองว่าสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนกลับไปสู่ภาวะอากาศที่เป็นกลางสำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 และ 2) แนวโน้มของการปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตน้ำตาลของประเทศบราซิลสำหรับในปี 2566/67 แต่เราก็ยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น KSL

ราคาน้ำตาลโลกแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2566

ราคาน้ำตาลโลกปรับตัวลดลง 28% ไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนธ.ค. (จากระดับสูงสุดล่าสุดที่ 27.95 เซนต์/ปอนด์ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ลดลงเหลือ 20.24 เซนต์/ปอนต์ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.) หลังจากนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% มาอยู่ที่ 21.11 เซนต์/ปอนด์ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวลงแรงเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้ประกาศเมื่อ วันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมาห้ามใช้ “น้ำอ้อยและน้ำเชื่อม” นำเอาไปผลิตเอทานอล (ซึ่งให้มีผลบังคับใช้ทันทีสำหรับปีการผลิต 2566/67 เพื่อคงไว้สำหรับปริมาณน้ำตาลให้เพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศอินเดีย) ตลาดโดยรวมคาดการณ์ในวงกว้างว่าอุปทานน้ำตาลของประเทศอินเดียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ล้านตันในปี 2567 สำหรับมาตรการดังกล่าว

และเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียก็ได้กลับคำสั่งห้ามใช้น้ำอ้อยและน้ำเชื่อมเพื่อนำไปผลิตเอทานอล โดยรัฐบาลอินเดียอนุมัติให้ใช้น้ำเชื่อมที่สกัดจากอ้อยและกากน้ำตาลบีเพื่อทำการผลิตเอทานอลและเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมได้ (แต่จำกัดการใช้น้ำตาลเอาไว้ที่จำนวน 1.7 ล้านตันสำหรับการผลิตเอทานอลในปีการผลิต 2566/67) แต่ถึงแม้ว่ารัฐบาลอินเดียได้กลับคำสั่งห้ามดังกล่าว แต่ราคาน้ำตาลโลกก็ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดยลดลงมาแตะระดับต่ำสุดครั้งล่าสุดที่ 20.24 เซนต์/ปอนด์เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขรายงานผลผลิตอ้อยและน้ำตาลของประเทศบราซิลสำหรับในช่วงครึ่งแรกของเดือนธ.ค. อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ก่อนหน้า

รายงานล่าสุดของ UNICA-ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก

สมาพันธ์อุตสาหกรรมอ้อยแห่งประเทศบราซิล (UNICA) ได้รายงานความคืบหน้าของการเก็บเกี่ยวและผลผลิตอ้อยสำหรับงวดรายครึ่งเดือนในพื้นที่ปลูกอ้อยทางภาคกลาง-ใต้ (south-central) นับจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. 2566 ผลผลิตอ้อยสะสมสำหรับในปีการผลิต 2566/67 ในภาคกลาง-ใต้อยู่ที่ 638.4 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 18% YoY ในขณะที่ผลผลิตน้ำตาลสะสมนับจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ 41.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25% YoY และสำหรับในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1-16 ธ.ค. UNICA ได้รายงานผลผลิตอ้อยสำหรับทางภาคกลาง-ใต้ที่ 19.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 244% YoY และผลผลิต น้ำตาลสำหรับทางภาคกลาง-ใต้ที่ 0.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้นมากถึง 205% YoY ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY เป็นผลมาจากฝนที่ตกเพิ่มขึ้นทางตอนใต้ของประเทศบราซิล ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับภาวะเอลนีโญ่ที่แรงมาก

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (ซึ่งภาวะเอลนีโญ่คาดว่าจะยังคงแรงต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2567) ผลผลิตน้ำตาลของประเทศบราซิลที่มากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลโลกสำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 (ถึงแม้ว่าสภาพอากาศของประเทศไทยและอินเดียแห้งแล้งกว่าภาวะปกติและส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลของทั้งสองประเทศลดลงก็ตาม)

มุมมองต่อราคาน้ำตาลโลกที่ต่ำลงจากเดิมสำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2567

ณ ปัจจุบันเราคิดว่าราคาน้ำตาลโลกมีแนวโน้มยากมากที่จะทะลุเกิน 30 เซนต์/ปอนด์สำหรับในปี 2567 (จาก ก่อนหน้านี้ที่เราคาดว่าราคาน้ำตาลโลกมีแนวโน้มทะลุ 30 เซนต์/ปอนด์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567) เนื่องจากราคาน้ำตาลโลก ณ ปัจจุบันที่ทำฐานต่ำลงมาอยู่ที่ 20-21 เซนต์/ปอนด์ในช่วงปลายเดือนธ.ค.ต่อเนื่องไปในเดือนม.ค. บวกกับภาวะอากาศที่มีแนวโน้มเปลี่ยนจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่แรง (สภาพอากาศที่แห้งแล้งกว่าปกติซึ่งส่งผลให้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทยและอินเดียลดลง) สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ไปสู่ภาวะอากาศที่เป็นกลาง (ปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าจะกลับมาในระดับปกติทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลทั่วโลกอยู่ในระดับที่ดี) สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เราคาดว่าราคาน้ำตาลโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 25-27 เซนต์/ปอนด์อีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงเหลือ 20-22 เซนต์/ปอนด์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เราคาดราคาน้ำตาลโลกเฉลี่ยที่ 23.5เซนต์/ปอนด์สำหรับในปี 2567 (1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2567) หรือคิดเป็นลดลง 2.3% YoY (จากราคาเฉลี่ยที่ 24.06 เซนต์/ปอนด์สำหรับในปี 2566)

- Advertisement -