รอบด้านตลาดหุ้น: Buy on Dips
สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ตลาดเด้ง แล้วย่อลงมาย่าฐานเดิม โดยหุ้นบวกได้แก่กลุ่มใหญ่ที่รีบาวน์ อิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที ธนาคาร (หลังมีแรงขายมาวันก่อน) ขณะที่หุ้นคอมเมิร์ช ภาพรวมยังมีแรงขายต่อ เมื่อรวมกับกลุ่มใหญ่อย่างพลังงาน ที่ย่อตัวลงตาม
ทิศทางราคาน้ำมัน ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยถูกถ่วงไว้ยังไม่ไปไหน อย่างไรก็ตาม สังเกตุว่าหุ้นกลาง-เล็ก กลุ่มที่เห็นปัจจัยบวกเฉพาะตัว และมีข่าวดี เป็น Catalysts บวกได้แรงกว่าตลาดมาก เช่น SAFE ITTHI MVP SRS เป็นต้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เรายังคงยืนยันการเลือกซื้อหุ้น Buy on dips ส่วนกรอบดัชนีฯรอบนี้ คาด รอการผ่านจุดต้านเดิม คือ 1,435 จุด ไปทดสอบ 1,450 จุด โดยประเมินแนวรับของดัชนีที่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 25 วัน บริเวณ 1,410 จุด
แม้ตลาดหุ้นไทย ยังเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับตลาดหุ้นโลกช่วงนี้ แต่เรายังคงมองว่าตลาดหุ้นไทยที่ลงแรงเมื่อปีที่แล้ว จะเป็นตลาดที่ ขยับตามตลาดหุ้นโลกที่บวกเมื่อปีที่แล้วได้บ้าง และด้วยเงินปันผลปีของหุ้นไทยที่สูงจะช่วยพยุงและผลักดันราคาหุ้นรายตัวขยับขึ้นได้ในที่สุด
ส่วนประเด็นเด่นในตลาดหุ้นช่วงนี้ เรามอง Neutral ต่อภาพรวมการลงทุน เช่น ดราม่าดอกเบี้ยแบงก์ชาติ (มองว่า ธปท.ยังไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงเร็วกว่าประมาณการณ์เดิม), โครงการแจกเงินหมื่นคืบหน้า, บิตคอยต์จะได้ออก ETF หรือไม่ (จำกัดวงใน หุ้นเชื่อมโยง เช่น JTS XPG ZIGA BROOK เป็นต้น)
หุ้นแนะนำวันนี้ : SAFE SFLEX
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- งบธนาคารจะประกาศ TISCO เป็นตัวแรก จันทร์ 15 ม.ค. และส่วนมากจะออกช่วง ศุกร์ 19 ม.ค.
- กลต.สหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณา อนุมัติจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF (คาดจะส่งผลบวกต่อราคา Bitcoin เหมือนเมื่อปี 2547 ที่อนุมัติ ETF ทองคำ)
- นายกเศรษฐา เดินหน้าโครงการ แจกเงินหมื่น ตามไทม์ไลน์เดิม
- บริษัทในเครือ JD.Com อีคอมเมิร์ช ยักษ์ใหญ่ในจีน ตรวจพบความน่าสงสัยของรายได้จากการโฆษณาและการตลาดออนไลน์ กระทบราคาหุ้นในตลาดฮ่องกง
- ธนาคารเงาจีน จงจื่อ เอ็นเตอร์ไพรส์ ประกาศล้มลาย จากผลกระทบวิกฤต ภาคอสังหาฯ จีน
- สมาคมนักวิเคราะห์ ถกเกณฑ์แยกโปรแกรมเทรดหุ้น ระบุตัวตน แบ่งประเภทและลงดาบเฉพาะที่ทำให้ตลาดปั่นป่วน
Global Investing Brief : หุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว กดดันโดยกลุ่มพลังงาน หลัง OPEC เพิ่มกำลังการผลิต
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดผสมเมื่อคืนนี้ โดย DJIA -0.4% S&P 500 -0.2% และ Nasdaq +0.1% หลังประธาน Fed สาขาแอตแลนต้ามีความเห็นว่า Fed ยังคงมีโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ แม้จะเห็นสัญญาณเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่การสกัดเงินเฟ้ออาจจะยังไม่สิ้นสุดงส่งผลให้ bond yield 10 ปีปรับขึ้นมาแตะระดับ 4.1% อีกครั้ง นอกจากนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน Exxon Mobil (XOM) -1.2% และ Chevron (CVX) -2.5% ตามราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับลงราว 4% หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เตรียมปรับเพิ่มการผลิต ซึ่งประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด
- แพลตฟอร์มหางาน “Linkedin” ของบริษัท Microsoft (MSFT) เผยยอดผู้ลงทะบียนใช้งานปัจจุบันอยู่ที่ 200 ล้านคน ใน 150 อุตสาหกรรมแล้ว และขณะนี้ยังเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่วัยรุ่นนิยมใช้หาคู่ เนื่องจากสามารถเห็นหน้าที่การงาน และประวัติของบุคคลได้มากกว่าแอปฯหาคู่ชื่อดังอย่าง Tinder โดยเรามองเป็นปัจจัยหนุนจำนวนผู้ใช้งาน และรายได้ในภาพรวมปี 67 ของ MSFT (แพลตฟอร์ม Linkedin สัดส่วน 7% ของรายได้) ให้โตราว 14.7%YoY สู่ $243.1bn อิงจาก Bloomberg Cons. ด้าน TP ให้ไว้ที่ $417.20 (upside 11%)
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนี Hang Seng ปิดลบ 0.2% โดย Meituan (3690) -4.6% และ JD.com (9618) -3.2% กดดันจากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังทางการจีนยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าในปี 67 ทางการจีนจะมีการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายมากขึ้น หลังธนาคารกลางจีน (PBoC) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราส่วนเงินสำรอง (RRR) เร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- Keeta แพลตฟอร์มส่งอาหารของ Meituan (3690) เผยยอดผู้ใช้งานเดือน ธ.ค. 66 เพิ่มขึ้น 50%MoM แตะ 1.3 ล้านคน หลังบริษัทมีการขยายบริการส่งอาหารไปยังกว่า 10 เมืองในฮ่องกง เช่น Mong Kok และเขต Tai Kok Tsui ในช่วงที่ผ่านมา โดยเรามองเป็นปัจจัยหนุนรายได้ของบริษัท ขณะที่ Bloomberg cons. เผยคาดการณ์รายได้จากธุรกิจส่งอาหาร (30% ของรายได้) ในช่วงปี 67 มีแนวโน้มโต 14.7%YoY แตะ RMB94.2bn พร้อมให้ TP ที่ HKD155.66 (upside 118%)
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- ดัชนี VN ปิดลบ 0.1% วานนี้ โดย GAS -1.2% และ BID -1% ขณะที่กระทรวงเกษตรเวียดนามตั้งเป้าการส่งออกสินค้าเกษตรอยู่ที่ $26bn ภายในปี 73 ซึ่งสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะมีการส่งออกสูงสุด ได้แก่ กาแฟ ข้าว ผัก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กุ้ง และผลิตภัณฑ์จากไม้ โดยเรามองบวกต่อประเด็นนี้ หลังปัจจุบันการส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามคิดเป็นราว 12% ของ GDP
- HPG ที่มีน้ำหนัก 7.6% ในดัชนี VN30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 เผยยอดขายเหล็ก เดือน ธ.ค. 66 โต 31.2%YoY แตะ 850,000 ตัน หลังความต้องการเหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งเรามองบวกต่อรายได้ในธุรกิจเหล็กที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่องในปีนี้ หลังสหภาพยุโรปขยายมาตรการงดเก็บภาษี 25% ของรายการเหล็กที่ส่งออกจากเวียดนามออกไป 12 เดือน จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 67
หุ้นเด่นประจำวัน : NetEase (9999.HK)
- บริษัทเปิดตัว “Hi Echo” คุณครูเสมือนจริง เวอร์ชัน 2 ต่อจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวไปเมื่อเดือน ก.ย. 66 โดยลักษณะพิเศษของเวอร์ชันนี้ คือ การออกเสียง ไวยากรณ์ และสำนวนที่มากขึ้น โดย Hi Echo จะอยู่ในรูปแบบแอปฯ บนแพลตฟอร์ม WeChat
- เราเชื่อว่าในอนาคต NetEase อาจนำ Hi Echo ไปใช้ต่อยอดในธุรกิจด้านอื่นได้ เช่น การนำมาไลฟ์ขายของบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น โดย Bloomberg cons. เผยรายได้ NetEase มีแนวโน้มโต 11.3%YoY แตะ RMB117bn ในปี 67