บล.ฟิลลิป:
SCGP คาดงบ 4Q66 กลับมาโตอีกครั้ง
ซื้อ TP’67: 47.00
คาดกำไร 4Q66 กลับมาโตได้อีกครั้ง โดยหลักจากธุรกิจเยื่อและกระดาษจากการเพิ่มขึ้นของราคาขาย Pulp ด้านต้นทุนเศษกระดาษคาดจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทลดผลกระทบได้บ้างจากการใช้เศษกระดาษในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้คาด 1Q67 จะยังโตได้ต่อเนื่องตามราคาขายที่ยังมีทิศทางเพิ่มขึ้น จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 47 บาท
งบรวม | 4Q66E | 3Q66 | 4Q65 | % у-у | % q-q | 2566E | 2565 | % у-у |
กำไร | 1,509 | 1,324 | 449 | 236 | 13.9 | 5,538 | 5,801 | -4.5 |
EPS | 0.35 | 0.31 | 0.10 | 236 | 13.9 | 1.29 | 1.35 | -4.5 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาดงบ 4Q กลับมาโตอีกครั้ง: คาดกำไร 4Q66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหลักจ่ากธุรกิจเยื่อและกระดาษ โดยเฉพาะจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาขาย Short fiber pulp เป็น 650 USD/ton (+24%q-q) และ Dissolving pulp เป็น 900 USD/ton (+6%q-q) ด้านธุรกิจ IPB คาดทรงตัว โดยหนุนจากยอดขายในอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งการส่งออกฟื้นตัวจาก 3Q66 แต่จะถูกกระทบจากการลดลงของยอดขายในไทยและฟิลิปปินส์ตาม Demand ที่อ่อนตัวลง ด้านต้นทุนเศษกระดาษคาดจะเพิ่มขึ้นจากส่วนที่นำเข้าจากอเมริกาและยุโรป อย่างโรก็ตามบริษัทมีการลดผลกระทบโดยปรับใช้เศษกระดาษภายในประเทศมากขึ้น และคาดราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ผลกระทบจะไม่มีนัยสำคัญนักเนื่องจากมีการล็อกราคาไว้บางส่วนแล้ว
- ปัจจัยหนุนยังมี: คาด 1Q67 ผลประกอบการจะโตได้ต่อเนื่อง โดยคาดจะได้รับประโยชน์จากราคาขาย Dissolving pulp ที่มี time lag มาจากช่วง 4Q66 รวมถึงความได้เปรียบจากต้นทุนการนำเข้าเศษกระดาษที่เป็นช่วงขาขึ้น แต่บริษัทสามารถจัดหาเศษกระดาษได้จากแหล่งในประเทศซึ่งถูกกว่าคู่แข่ง