บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*
แนวโนม megatrend AI จะขับเคลื่อนกำไรในปี 2567F
Event
ประมาณการ 4Q66 และอัพเดตแนวโน้มของบริษัท
Impact
ประมาณการ 4Q66: กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ DELTA ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท (-2% YoY, -14% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักเต็มปีอยู่ที่ 1.73 หมื่นล้านบาท (+19% YoY) และเป็นไปตามประมาณการเต็มปีของเรา ทั้งนี้ กำไรที่อ่อนตัว YoY ใน 4Q66F จากยอดขายที่เติบโตในระดับปานกลาง หักล้างกันไปกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจาก product mix ที่แย่ลง และอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มยานยนต์อ่อนแอเพราะมีการตั้งสำรอง ในขณะเดียวกัน กำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะยอดขายลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ไปก่อน เราคาดว่ายอดขายใน 4Q66 ของ DELTA จะอยู่ที่ 1 พันล้านคอลลาร์ฯ (+8% YoY, -10% QoQ) ซึ่งจะทำให้ยอดขายในปี 2566 อยู่ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์ฯ (+23% YoY) เป็นไปตามประมาณการของเรา ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาอยู่ที่ 22.3% (-2.2ppts YoY -0.3ppts QoQ) เพราะ product mix แย่ลง และอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มยานยนต์อ่อนแอเพราะมีการตั้งสำรอง
แนวโน้ม megatrend AI จะขับเคลื่อนวัฏจักรการอัพเกรดอุปกรณ์ในปี 2567F แต่ยังมีความไม่แน่นอนสำหรับกลุ่มยานยนต์; de-rate PER เพื่อสะท้อนความเสี่ยง
ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์ของ KGI Taiwan เรื่อง AI & casing liquidity to lift Taiex to 20,000 in 2024F ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ทางทีมวิจัยคาดว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยขับเคลื่อนวัฏจักรการอัพเกรดอุปกรณ์ใน 2H67F และ AI server จะเป็นปัจจัยกระตุ้นหลักสำหรับการเติบโตของอุปสงค์ server ในปี 2567F ดังนั้น จึงคาดว่ายอดจัดส่ง server ทั้งโลกจะโต 15% YoY ในปี 2567F โดยที่ยอดจัดส่ง AI server จะโตถึง 230% YoY (คิดเป็น 14% ของจัดส่ง server ทั้งหมด) เราคิดว่า DELTA น่าจะไดอานิสงส์จากแนวโน้ม megatrend นี้ เพราะ 25-30% ของรายได้รวม มาจากยอดขาย data center แต่อย่างไรก็ตาม ภาพกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยของเศรษฐกิจมหภาค (KGI Taiwan ปรับลดการเติบโตยอดขายลดรถยนต์ของโลกลงจาก +2% เหลือ -1%YoY ในปี 2567) ทั้งนี้ DELTA มีรายได้จากกลุ่มยานยนต์ประมาณ 30% ของรายได้รวม ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2567F ที่ 15-20% (สูงกว่าสมมติฐานของเราที่ 14%) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงข้างต้น เราจึงมีการปรับลด PER จาเกเดิม 64.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.0 S.D.) เป็น 55.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.5 S.D.)
Valuation & action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 จาก 100.00 บาท เป็น 88.00 บาท อิงจาก PER 55.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.5 S.D.) และปรัลดคำแนะนำจาก “ซื้อ’ เป็น “ถือ”
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-67 ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ฯ)